กรุงเทพฯ 11 ก.ค.-ราคาน้ำมันโลก เริ่มดีดตัวกลับสูงขึ้น แม้นักลงทุนกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในจีน
บมจ. ไทยออยล์ รายงาน ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) ว่า ทิศทางกลับมาดีดตัวขยับสูงขึ้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 104.79 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบ ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 107.02 ดอลลาร์/บาร์เรล แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 372,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 250,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.3%
บมจ.ไทยออยล์ คาดด้วยว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้ (11-15 ก.ค. 65) จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 100-110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 102-112 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ยังมีแรงกดดัน เพราะนักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินนโยบายทางการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในจีนยังคงกดดันตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลภาวะอุปทานตึงตัว เนื่องจากการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียประสบปัญหาในการส่งออก เนื่องจากปัญหาความไม่สงบภายในประเทศ และกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) ที่อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน จะเดินทางเยือนซาอุฯ ตามคำเชิญของมกุฎราชกุมารบิล ซัลมาน หลายฝ่ายจับตามองว่าการเดินทางเยือนตะวันออกกลางในครั้งนี้ของผู้นำสหรัฐฯ จะมีท่าทีเรียกร้องให้ซาอุฯ และกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) เดินหน้าปรับเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นหรือตามข้อตกลงเดิมที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ราว 0.648 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ส.ค. 65 ส่วนอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังผู้ผลิตในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันอย่างต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 1 แท่นสู่ระดับ 595 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 63
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 ก.ค. 65) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 3.64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 104.79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ปรับลดลง 4.61 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 107.02 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 104.20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หลังจากได้รับแรงกดดันเนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด–19 ในจีน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้แรงสนับจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบียและความไม่แน่นอนในการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก (OPEC) .–สำนักข่าวไทย