กรุงเทพฯ 7 ก.ค.- โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดีสิ่งทอไทยส่งออกไตรมาสแรกพุ่ง 1.78 พันล้านเหรียญสหรัฐ กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมส่งเสริม “OTOP PREMIUM” เพิ่มการส่งออกสู่ตลาดสากล
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลการดำเนินงาน และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมสนับสนุนให้ภาพรวมการส่งออกอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในช่วงต้นปี 2565 เติบโตต่อเนื่อง มีมูลค่าสูงถึง 1.78 พันล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาศักยภาพสินค้าไทยอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากภาพรวมเชิงบวกด้านการค้าระหว่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM : Department of Industrial Promotion) เปิดเผยว่า การส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทยในไตรมาส 1 ประจำปี 2565 มีความคึกคักต่อเนื่อง มูลค่าการส่งออกพุ่ง 1,784.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในภาคการนำเข้ามีมูลค่า 1,373.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกินดุลการค้าคิดเป็น 410.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นโอกาสสำคัญ ในการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม โดยดีพร้อมได้พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์สิ่งทอผ่านการรับรองมาตรฐาน (Thailand Textiles Tag) ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่ผลิตในไทยและได้รับการพัฒนาสินค้าอย่างมีคุณภาพ ตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสากล อีกทั้งปรับปรุงเว็บไซต์ www.thailandtextilestag.com เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง และผู้ประกอบการที่ประสงค์ยื่นขอการรับรองฉลากฯ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล
นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเร่งผลักดันและให้ความสำคัญกับกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในชุมชนท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น ผ่านการสนับสนุนให้สินค้าชุมชนออกสู่ตลาดระดับประเทศและนานาชาติ โดยกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ได้ร่วมต่อยอดพัฒนาสินค้า และยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP ให้เป็นสินค้าระดับพรีเมียม (Premium) สู่ตลาดสากล ภายใต้โครงการ “OTOP PREMIUM” ผ่านการนำผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ได้มาตรฐานระดับ 4 – 5 ดาว จำนวน 300 ผลิตภัณฑ์ทั่วประเทศ เข้าสู่กระบวนการพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และส่งออกสู่ระดับสากลต่อไป โดยจะนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาแล้วเข้าสู่กิจกรรมทดสอบตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด มีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กับธุรกิจชั้นนำ ซึ่งสำหรับการทดสอบตลาดออนไลน์ ได้ดำเนินการ ใน 3 ช่องทาง คือ เว็บไซต์ www.otoptoday.com ตลาดออนไลน์ Shopee และ Lazada เพื่อเพิ่มโอกาสในการต่อยอดและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP สู่ระดับสากลต่อไป
“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพ เอกลักษณ์ ของผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP ว่าจะสามารถพัฒนาต่อยอดเพื่อส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศได้ไม่ยาก จึงกำชับทุกฝ่ายเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่นๆ ทุกรูปแบบ เพื่อให้ครอบคลุมตลาดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมผลักดันสินค้าไทยให้เกิดประสิทธภาพสูงสุด โดยรัฐบาลตั้งเป้าสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ ประชาชน และเป็นโอกาสได้ ต่อยอด พัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้าสู่ระดับสากลในอนาคตเพื่อสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน” นายธนกรฯ กล่าว.-สำนักข่าวไทย