สรท.กังวลการเมืองระหว่างประเทศฉุดส่งออกไทยต้องระวัง

กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – ปธ.สรท.กังวลปัญหาความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสงครามระหว่างประเทศ ทั้งกลุ่มยุโรปและตะวันออกกลางที่สร้างแรงกดดันส่งออกไทยต้องระวังช่วงครึ่งหลังปี แม้ตัวเลขส่งออกจะเป็นบวกแต่ผู้ส่งออกถูกคิดค่าระวางเรือสูง ขณะที่ค่าเงินบาทไม่ห่วงมากแต่ขอให้นิ่งรวมถึงปัญหาความมีเสถียรภาพทางการเมืองไทยต้องนิ่งเช่นกัน ส่วนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐไม่ว่าใครมาจะมีผลส่งออกไทยไตรมาสแรกปี 68 แต่ยังมั่นใจส่งออก 67 ฝ่าปัจจัยเสี่ยง เติบโต 1-2% ได้


ดร.ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)กล่าวว่าหากดูตัวเลขภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพฤษภาคม 2567 กับเดือนเดียวกันของปีก่อน พบว่า การส่งออกมีมูลค่า 26,219.5 ล้านเหรียญสหรัฐขยายตัวร้อยละ 7.2 และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 960,220 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.1 (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธ ปัจจัย พบว่าการส่งออกในเดือนพฤษภาคมขยายตัวร้อยละ 6.5) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 25,563.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 1.7และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 947,007 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.5 ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม 2567เกินดุลเท่ากับ 656.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับ 13,214 ล้านบาท

ทำให้ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนมกราคม – พฤษภาคมของปี 2567 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่า ไทยส่งออกรวมมูลค่า 120,493.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.6 และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 4,298,248 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.1 (เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในช่วงมกราคม – พฤษภาคมขยายตัวร้อยละ 4.3) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 125,954.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.5 และมีมูลค่าในรูปเงินบาทเท่ากับ 4,542,224 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.8 ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 ขาดดุลเท่ากับ 5,460.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 243,976 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม สรท. คงคาดการณ์การส่งออกปี 2567 เติบโตที่ร้อยละ 1-2 (ณ เดือนกรกฎาคม 2567) โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในครึ่งปีหลังที่สำคัญ ได้แก่ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน การตั้งกำแพงภาษีระหว่างกันและชาติพันธมิตรอาจส่งผลกระทบต่อระบบการค้าโลกรวมถึงการค้าระหว่างประเทศของไทย การจับตาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตรงนี้จะมีผลต่อการค้าไทยในช่วงไตรมาสแรกปี 68

ขณะที่ ต้นทุนภาคการผลิต ทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อาทิ ต้นทุนพลังงาน อาทิ น้ำมันและไฟฟ้า ค่าแรงขั้นต่ำที่อยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้น รวมถึงต้นทุนค่าระวางเรือ ค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม (Surcharge) และค่าใช้จ่ายภายในประเทศ (Local Charge) ปรับตัวสูงขึ้นทุกเส้นทาง ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์จากการเร่งผลิตและส่งออกของจีนส่งผลให้ค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 300 โดยภาคส่งออกถูกคิดค่าระวางเรือสูงโดยหากตู้สั้นจะถูกคิด 4,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นตู้ยาวถูกคิดเฉลี่ยอยู่ที่ 7,000-8,000 ดอลลาร์สหรัฐ และหากสงครามในตะวันออกกลางและยูโรปยืดเยื้อโอกาสค่าระวางเรือสูงขึ้นอีกได้ แต่โดยรวมตู้ขนส่งสินค้าไม่ขาดแคลนมีเพียงพอแต่มีระยะเวลาขนส่งมีระยะนานขึ้น ส่วนผลความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนไม่กังวล เนื่องจากมองว่าครึ่งหลังปีเงินบาทจะยังคงอ่อนค่าอยู่ที่ 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐถือว่าแข่งขันการค้าไทย

นอกจากนี้ การเข้าถึง สินเชื่อของภาคการผลิตมีปัญหาต่อเนื่อง ทำให้ขาดสภาพคล่อง และภาคการผลิตรายสินค้ามีแนวโน้มฟื้นตัวค่อนข้างจำกัด ดังนั้น สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.ต้องกำกับดูแลต้นทุนการผลิตเพื่อให้การ ส่งออกของไทยยังคงขีดความสามรถในการแข่งขันได้ อาทิ ต้นทุนพลังงาน ค่าไฟฟ้า ค่าแรงขั้นต่ำ และค่าขนส่งสินค้าทางทะเลโดยเฉพาะค่าระวางเรือ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 2.ผู้ส่งออกต้องวางแผนการขนส่งด้วยการจองระวางเรือล่วงหน้า รวมถึงการเจรจา กับคู่ค้าเพื่อปรับอัตราค่าขนส่งให้สอดคล้องกับค่าระวางในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นในทุกเส้นทาง รวมถึงต้องบริหารจัดการสต็อกสินค้าให้เหมาะสม 3.สนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการส่งออก อาทิ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้า 4.สนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับภาคธุรกิจ ให้เพียงพอต่อการหมุนเวียนกระแสเงินสดและการผลิตเพื่อการส่งออก อาทิ การจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงให้คำปรึกษาทางการเินแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในการวางแผนบริหารจัดการ 5.เร่งส่งเสริมกิจกรรม Trade Promotion ในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และสร้างโอกาสให้สินค้าไทยในสายตาคู่ค้าและผู้บริโภคในต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงที่การเมืองระหว่างประเทศมีความผันผวน และ 6.เร่งปรับโครงการสร้างการส่งออกของไทย เพื่อรองรับการแข่งขันในระยะยาว โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Trading Nation


อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญอยากให้สถานการณ์การเมืองในประเทศจะต้องมีเสถียรภาพและนิ่งให้มากขึ้น จะทำให้การส่งออกในครึ่งหลังปีนี้ยังมีโอกาสขยายตัวได้ โดยหากผลักดันการส่งออกครึ่งหลังปี 67 ได้ถึง 142,200-145,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 23,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ โอกาสตัวเลขการส่งออกไทยเฉลี่ยทั้งปีเติบโตเป็นบวกร้อยละ 1-2 ได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ได้แน่นอน. -514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย