กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-บมจ. บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล (KCC) เริ่มซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอต้อนรับ 5 พ.ค. นี้ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IP0 2,294 ล้านบาท
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ maiยินดีต้อนรับ บมจ. บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มธุรกิจการเงิน โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “KCC” ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565
KCC ประกอบธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมถึงบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย และปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย โดยได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้ดำเนินธุรกิจบริษัทบริหารสินทรัพย์เมื่อปี 2556 ซึ่งธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จะเป็นการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Non-Performing Loan : NPLs) จากสถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน เพื่อนำมาบริหารจัดการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายในการแก้ไขปัญหาหนี้เสียร่วมกันกับลูกหนี้ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ที่ค้างอยู่ และดำเนินกิจการต่อไปได้ ปัจจุบันบริษัทมีนโยบายบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ NPLs ประเภทลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจและลูกหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก และสำหรับธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (Non-Performing Asset : NPA) เป็นการซื้อหลักประกันลูกหนี้ NPLs ของบริษัทที่เกิดจากการประมูลขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี หรือจากการตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ของลูกหนี้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเน้นบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเป็นหลัก โดยงวดสิ้นปี 2564 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 735.82 ล้านบาท มีสัดส่วนการลงทุนต่อสินทรัพย์รวม ดังนี้ NPLs สินเชื่อธุรกิจ 46.28% NPLs สินเชื่อที่อยู่อาศัย 30.58% และ NPA 2.96%
KCC มีทุนชำระแล้ว 310 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 460 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 160 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 150.32 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 3.88 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 5.80 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 22 และ 25-26 เมษายน 2565 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.70 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 592 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,294 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (P/BV) ที่ 5 เท่า โดยคำนวณจากมูลค่าทางบัญชีสุทธิสิ้นสุดปี 2564 ของบริษัท460.61 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ 620 ล้านหุ้นจะได้มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น 0.74 บาท (Fully Diluted Book Value per Share) โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. KCC เปิดเผยว่า บริษัท มุ่งเน้นการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของกลุ่มสินเชื่อที่มีหลักประกัน และเลือกลงทุนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกันที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีสภาพคล่องสูง โดยเน้นทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ประกอบกับผู้บริหารมีประสบการณ์ในธุรกิจด้านการเงินมากว่า 20 ปี รวมถึงมีฐานข้อมูลและการทำงานที่มีมาตรฐาน ทำให้บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการจัดหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขาย ชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และ/หรือ ชำระหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดที่ออกโดยบริษัท และ/หรือภาระหนี้สินอื่นใดของบริษัท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ KCC มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มบุญบรรเจิดศรี ถือหุ้น 52.07% และนายทวี กุลเลิศประเสริฐ ถือหุ้น22.32% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท.-สำนักข่าวไทย