เคียฟ 16 ส.ค. – ผู้นำยูเครนเตรียมเดินทางไปพูดคุยกับผู้นำสหรัฐ หลังจากที่การเจรจาระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำรัสเซีย เสร็จสิ้นลงโดยไร้ข้อตกลงใดๆ
นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า เขาจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยจะหารือรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ซึ่งเซเลนสกีบอกว่าตัวเขาสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ ในการจัดประชุม 3 สามฝ่าย คือ สหรัฐ รัสเซีย และยูเครน ซึ่งทรัมป์เคยเปรยเอาไว้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นฝ่ายจัดการประชุม และการประชุมจะมีขึ้นเมื่อไร
หลังการประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่เมืองแองคอเรจ รัฐอะแลสกาของสหรัฐ เสร็จสิ้นลง ในระหว่างที่ทรัมป์กำลังเดินทางกลับมายังกรุงวอชิงตัน เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำยูเครนและผู้นำชาติพันธมิตรในยุโรป แต่ไม่มีการระบุว่าพูดคุยกันในเรื่องใดบ้าง ขณะที่ทางผู้นำยุโรปเตรียมจะออกแถลงการณ์ร่วมในวันนี้เกี่ยวกับการประชุมยอดทรัมป์-ปูติน ที่เพิ่งผ่านมา
การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับปูติน มีขึ้นเมื่อคืนนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งใช้คุยกันเวลาร่วม 3 ชั่วโมง และจบลงโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ เกิดขึ้น แต่ทรัมป์บอกว่าการเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก และหลังการประชุมผู้นำทั้งสองก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วย แต่หลังจากนั้นทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์ทางช่องฟ็อกซ์นิวส์ระบุว่าในการเจรจาทั้งสองฝ่ายมีความเห็นพ้องกันในหลายประเด็น และในเร็วๆ นี้อาจจะมีการจัดประชุมระหว่างปูตินกับเซเลนสกี ซึ่งตัวเขาเองอาจจะเข้าร่วมด้วย
ด้านนายปูตินไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องการพบปะกับนายเซเลนสกี จากการให้สัมภาษณ์นักข่าวก่อนการประชุม เพียงแต่บอกว่าหวังว่ายูเครนและพันธมิตรในยุโรปจะยอมรับผลการเจรจาระหว่างสหรัฐกับรัสเซียอย่างสร้างสรรค์ และไม่พยายามขัดขวางความก้าวหน้าที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับย้ำจุดยืนว่า “สาเหตุหลัก” ของความขัดแย้งจะต้องถูกกำจัดออกไป เพื่อให้บรรลุสันติภาพในระยะยาว และในการประชุมครั้งนี้ ปูตินยังได้กล่าวเป็นภาษาอังกฤษเชิญให้ทรัมป์เข้าร่วมประชุมครั้งต่อไปที่กรุงมอสโกของรัสเซียด้วย โดยท่าทีของผู้นำทั้งสองในการพบปะกันครั้งนี้ค่อนข้างดูผ่อนคลายและเป็นกันเอง.-816.-สำนักข่าวไทย