กรุงเทพฯ 10 ต.ค.-หุ้น SRS เปิดเทรดวันแรกที่ 21.60 บาทเพิ่มขึ้น 5.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น+35% จากราคา IPO 16 บาท
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai รับ บมจ. สิริซอฟต์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยีในวันนี้ 10 ตุลาคมโดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SRS” เปิดเทรดวันแรกที่ 21.60 บาทเพิ่มขึ้น 5.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น+35% จากราคา IPO 16 บาท
โดย SRS ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับองค์กร บริษัทถือหุ้น 100 % ในบริษัท เอส อาร์ เอส อินทิเกรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบ Cyber Security ให้บริการบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และบริการที่เกี่ยวเนื่องแบบครบวงจร
กลุ่มบริษัทเป็นพันธมิตรกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ชั้นนำ เช่น Red Hat, Oracle, Dynatrace และ Huawei โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มธุรกิจเอกชน เช่น กลุ่มสถาบันการเงิน กลุ่มค้าปลีก
สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการบริการ : รายได้จากการขายในสัดส่วนร้อยละ 63 : 37 และมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งยังไม่ได้ส่งมอบประมาณ 526 ล้านบาท
SRS มีทุนชำระแล้ว 80 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 120 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 40 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ทั้งจำนวน ระหว่างวันที่ 2 – 4 ตุลาคม ในราคาหุ้นละ 16 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 640 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,560 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 38.37 เท่าคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566) ซึ่งเท่ากับ 66.72 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.42 บาท
นายสิริวัฒน์ ธนุรเวท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิริซอฟต์ เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานภายในองค์กร การสรรหาและพัฒนาบุคลากรในการพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์ รวมถึงการขยายพื้นที่สำนักงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ
SRS มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลังเข้าจดทะเบียน คือ กลุ่มนายสิริวัฒน์ ธนุรเวท ถือหุ้น 74.25% และนายณัฐพล ธนาเตชะวงศ์ถือหุ้น 0.75% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ.-สำนักข่าวไทย