หลักเกณฑ์เบิกค่ารักษาโควิด กรณีเข้ารักษาเอกชน

กรุงเทพฯ 17 มี.ค.- กรมบัญชีกลางออกหลักเกณฑ์และอัตราการเบิกค่ารักษาโควิด-19 สิทธิข้าราชการ กรณีเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเอกชน


นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ด้วยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID – 19) กรณีติดเชื้อโรคโควิด 19 ที่แพทย์วินิจฉัยว่าเข้าเกณฑ์วิกฤตฉุกเฉิน (UCEP Plus) ตามเกณฑ์ที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้กำหนดแนวทางและเกณฑ์ประเมินคัดแยกระดับความฉุกเฉิน ใช้ระดับความรุนแรงของผู้ป่วย (สีแดง สีเหลือง และสีเขียว) เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาให้เข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2565 ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพ อีกทั้งสอดคล้องกับแนวทางที่ สพฉ.กำหนด กรมบัญชีกลางจึงยกเลิกหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 273 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 และกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลสถานพยาบาลของเอกชน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

กรณีได้รับการประเมินเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ (สีแดงและสีเหลือง) 


  • สามารถเข้ารักษาได้ที่สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ โดยอัตราการเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตฯ (UCEP Plus)
  • การเบิกค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมการรักษาตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดการรักษา 
  • หากมีประกันภัย ต้องใช้สิทธิการเบิกจ่ายจากประกันภัยก่อน ส่วนที่เกินจากสิทธิจึงจะสามารถเบิกได้ 

กรณีได้รับการประเมินเป็นผู้ป่วยอาการเล็กน้อย (สีเขียว)

  • เข้ารับการรักษา ได้เฉพาะโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 85 แห่ง
  • อัตราการเบิกจ่าย ให้เบิกได้เท่ากับอัตราของสถานพยาบาลของทางราชการ ตามที่ สปสช. กำหนด 
  • รูปแบบการให้บริการ ครอบคลุมทุกกรณี เช่น Hospital Hotel Isolation, Home Isolation, Community Isolation เป็นต้น
  • การรักษาพยาบาลเป็นไปตามเงื่อนไขที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

“การเบิกเงินค่ารักษาพยาบาล ให้สถานพยาบาลของเอกชนเป็นผู้เบิกแทนผู้มีสิทธิในระบบเบิกจ่ายตรงเท่านั้น โดยดำเนินการส่งข้อมูลผ่านระบบของ สปสช. เมื่อกรมบัญชีกลางได้รับข้อมูลจึงจะจ่ายเงินให้สถานพยาบาลของเอกชนภายใน 15 วัน ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 213 ลงวันที่ 16 มีนาคม 2565 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 02 127 7000 ต่อ 6854  4441 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว