กรุงเทพฯ 11 ก.พ.-ลุ้นรัฐบาล ลดภาษีสรรพสามิต ควบคู่กับกู้เงินกองทุนน้ำมันเพิ่ม หลังราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งไม่หยุด หวั่นกระทบค่าครองชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงต่อสภา เรื่องแนวโน้มปัญหาราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้น้ำมันดีเซลในประเทศขยับเพิ่ม 6 บาทต่อลิตร เบนซินเพิ่ม 5 บาท/ต่อลิตร รัฐบาลยังใช้นโยบาย ตรึงราคาน้ำมันมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิง อุดหนุน 3.79 บาท/ต่อลิตร ขณะนี้ใช้เงินกองทุนฯดูแลประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อเดือน
รัฐบาลยังต้องตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (LPG)ในราคา 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม เพื่อให้ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ไม่ได้รับผลกระทบต้นทุนก๊าซหุงต้มแพง จนทำให้กองทุนน้ำมันฯ ติดลบ 1.5 หมื่นล้านบาท รัฐบาลจึงเตรียมกู้เงินอีก 2-3 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาใช้ดูแลต้นทุนพลังงานในทุกกลุ่ม หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังสูงต่อเนื่อง จึงต้องลุ้นว่ากระทรวงคลัง คงต้องตัดสินใจลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ควบคู่กับการใช้กองทุนน้ำมันฯเข้าดูแล เมื่อปัญหาวิกฤติมากขึ้น
ยอมรับว่า รายได้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี มีสัดส่วน 40% ของรายได้ภาษีทั้งหมดของกรมสรรพสามิต อาจต้องตัดสินใจใช้แผนการลดภาษีน้ำมันมาช่วยเหลือเศรษฐกิจภาพรวม ปัจจุบัน ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจัดเก็บ 5.99 บาทต่อลิตร, น้ำมันเบนซิน ราคา 6.5 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์95 และ 91 ราคา 5.85 บาทต่อลิตร ส่วนจะลดลงเท่าใดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย