กรมอุทยานฯ เร่งติดตามช้างป่าสลักพระ-เขาใหญ่บาดเจ็บ

กาญจนบุรี 3 ก.พ. – กรมอุทยานฯ เร่งติดตามช้างป่าถูกรถชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พร้อมใช้มาตรการเข้ม คาดโทษผู้ที่ขับขี่รถเร็ว ส่วนที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตาม “พลายเบี่ยงเล็ก” เพื่อรักษาแผลบาดเจ็บจากการต่อสู้ในฤดูผสมพันธุ์


นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระติดตามช้างป่าที่คาดว่าบาดเจ็บ เนื่องจากถูกรถชน ล่าสุดพบร่องรอยการเดินลากขาซ้ายหลัง แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงช้างตัวนี้ได้เพราะช้างรวมกลุ่มอยู่ 3 ตัว เจ้าหน้าที่อาจได้รับอันตราย ขณะนี้คอยเฝ้าระวังและประเมินอาการว่า บาดเจ็บมากน้อยเพียงใดเพื่อให้สัตวแพทย์รักษาต่อไป

จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุรถตู้ชนช้างป่าที่ถนนสาย 3199 บ้านวังจาน หมู่ที่8 ตำบลวังด้ง อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ รายงานว่าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. เวลา 23.40.น. คนขับรถชื่อนายสุทธิพจน์ วังกุ่ม อาชีพขับรถตู้เอกชนขับรถชนช้างป่า โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่รถตู้ได้รับความเสียหายตอนช่วงหน้ารถ ขณะนี้เจ้าของรถเคลื่อนย้ายรถดังกล่าวออกจากพื้นที่ไปแล้ว


ทั้งนี้ เส้นทางที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางตรง ผู้ขับรถยนต์ส่วนใหญ่มักขับมาด้วยความเร็วมาก ทั้งที่มีป้ายเตือนให้ระวังช้างป่า ที่ผ่านมามาตรการของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ คือ จัดชุดพิทักษ์ป่าเฝ้าระวังช้างป่าอยู่ในเส้นทางนี้อยู่ จึงสั่งการให้ใช้มาตรการเพิ่มเติม คือ เพิ่มป้ายเตือนระวังช้างเพิ่มเติมประมาณ 20 ป้ายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ มีข้อความว่า “ขับรถความเร็วไม่เกิน60 กม./ชม. ขับช้า ๆ ระวังช้างป่า ชนช้างป่ามีโทษจำคุก และปรับ” เพิ่มเติมจากป้ายกรมทางหลวง และเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างตลอดเส้นทางที่มีความเสี่ยง ระยะทางประมาณ 15 กม. โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อบต. อบจ. หรือกรมทางหลวง

หากยังมีบุคคลใดยังขับรถเร็วในเส้นทางดังกล่าว ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ซึ่งมีป้ายเตือน แต่ยังขับรถความเร็วเกินกว่าที่กำหนดแล้วไปชนช้างป่า ถือว่ามีเจตนาเล็งเห็นผลที่จะทำอันตรายช้างป่า มีความผิดตามมาตรา 12 พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ฐาน กระทำอันตรายด้วยประการใด ๆ แก่สัตว์ป่าคุ้มครอง ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และยังต้องชดใช้ค่าเสียหายไม่ว่ากระทำด้วยความจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ ในการทำอันตรายช้างป่าให้แก่กรมอุทยานฯ ตามมาตรา 87 ประกอบมาตรา 88 พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 เป็นจำนวนค่าเสียหายที่ทำการรักษาช้างป่า หรือในกรณีที่ช้างป่าตายต้องชดใช้มูลค่าของช้างป่าที่ตายราคาหลายแสนบาทอีกด้วย

ส่วนที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตาม “พลายเบี่ยงเล็ก” ที่บาดเจ็บที่ก้น โดยนายสว่าง กองอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีช้างป่าตัวหนึ่งบาดเจ็บเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 64 จึงเข้าตรวจสอบพบว่า เป็นเพศผู้ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “พลายเบี่ยงเล็ก” มีบาดแผลที่โคนหาง


ทั้งนี้ “พลายเบี่ยงเล็ก” มักปรากฏตัวที่ถนน 3077 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 14 เป็นระยะเวลาสั้น ๆ จากนั้นเดินเข้าป่าลึกไป สัตวแพทย์จึงประเมินหาพื้นที่และวางแผนการรักษา เบื้องต้นนำสมุนไพรปางหละและยาปฏิชีวนะยัดใส่ในกล้วยวางบริเวณที่ช้างตัวดังกล่าวปรากฏตัวบ่อยๆ เมื่อตรวจสอบพบว่า ช้างได้รับยาทั้งหมด ต่อมาพบกองมูลของช้างบริเวณ ม.15 บ้านวังน้ำขุ่น ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรีซึ่งมีหนองด้วย แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นรุนแรง จึงให้เจ้าหน้าที่ติดตามเพื่อนำนายัดกล้วยให้เพิ่มเติม จนวันที่ 4 ม.ค. เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) พบตัวอยู่บนถนน 3077 จุดเดิมซึ่งแผลที่หางแห้งและไม่มีหนองแล้ว

จนกระทั่งวันที่ 23 ม.ค. เจ้าหน้าที่ชุดติดตามพบว่าช้างมีอาการน้ำหนองไหลบริเวณก้นจึงได้ประสานทีมสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่าเข้าร่วมรักษาเมื่อวันที่ 28 ม.ค. โดยเดินเข้าไปจากหลักกิโลเมตรที่ 14 ประมาณ 500 เมตร เมื่อวางยาซึมแล้วตรวจสอบแผลบริเวณหางพบว่า หางขาดและแผลที่มีลักษณะเป็นซอก ทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำๆ ในบริเวณนี้ได้ รวมทั้งยืนยันได้ว่า บาดแผลเกิดจากการต่อสู้กันตามธรรมชาติของช้างป่าในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ไม่ใช่การกระทำของมนุษย์

ทั้งนี้ ทีมสัตว์แพทย์ได้ดำเนินการให้ยาปฏิชีวนะ ยาลดปวดลดอักเสบ ธาตุเหล็ก วิตามินบำรุง และทำการล้างแผลบริเวณที่จะเกิดการติดเชื้อ พร้อมทั้งพ่นยาปฏิชีวนะ ผงกันหนอง และครีมรักษาแผล แล้วให้เจ้าหน้าที่ชุดติดตามประเมินอาการมาอย่างต่อเนื่อง แต่ติดตามระยะห่าง 100 เมตรเนื่องจาก “พลายเบี่ยงเล็ก” ไม่ยอมให้เข้าใกล้ ล่าสุดจึงติดตั้งกล้อง NCAPS ดักถ่ายภาพเพื่อช่วยให้ทราบตำแหน่งของช้างและติดตามอาการได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่ม

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่มจากผู้เชี่ยวชาญ 22 ท่าน พร้อมให้ข้อมูลเต็มที่ ผลสอบออกมาเป็นอย่างไร ก็จะยอมรับ ย้ำเชื่อมั่นความโปร่งใส ขณะนี้ สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง บ.อิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด

ปชช.กลับบ้านสงกรานต์ แน่นสถานีขนส่งหมอชิต 2

บรรยากาศที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ประชาชนเข้าใช้บริการแน่นขนัด บขส. ยืนยันจัดรถเสริมไว้บริการเพียงพอ พร้อมทั้งจัดจุดประสานงานจราจร ให้รถโดยสารเข้าถึงชานชาลาได้เร็วขึ้น

ไล่ล่า “บุญเกิด” มือยิง ตร.ดับ ตั้งค่าหัว 1 แสนบาท

คดีคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิต ขณะเข้าตรวจค้นกระท่อมภายในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาตัวมือยิง เชื่อยังหลบอยู่ในพื้นที่

ลุ้นปาฏิหาริย์ ช่วยแรงงานติดใต้ซากอาคาร สตง.

ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างอาคาร สตง. ถล่ม ยังคงดำเนินต่อเนื่อง หลังพบแสงสัญญาณแห่งความหวัง ที่คาดว่ามีผู้ติดค้างสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยเจ้าหน้าที่เร่งเจาะเปิดพื้นที่พร้อมเติมท่ออากาศลงไป