เร่งแก้ปัญหาเสือ-คน หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยในป่าตะวันตก

กาญจนบุรี 2 ก.พ.- กรมอุทยานฯ เร่งแก้ปัญหาคนล่าเสือ-เสือกัดคนในป่าตะวันตก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย โดยต้นเหตุสำคัญคือ การนำปศุสัตว์เข้าไปเลี้ยงในเขตป่าอนุรักษ์ที่เป็นพื้นที่หากินของสัตว์นักล่าอย่างเสือโคร่ง รวมทั้งยังอาจทำให้โรคจากปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงแพร่สู่สัตว์ป่าได้ สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศรุนแรงอย่างรุนแรง


นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งกำหนดแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ชาวบ้านล่าเสือโคร่ง และเสือโคร่งกัดชาวบ้านดังที่เกิดในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ เสือโคร่งดังกล่าวอาศัยบริเวณป่ารอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา โดยเสือเป็น “สัตว์ผู้ล่า” ซึ่งมีพื้นที่หากินกว้าง จึงข้ามพรมแดนไปมาเพื่อหากิน เมื่อได้กลิ่นสัตว์อื่นจะตามกลิ่นเพื่อล่าเป็นอาหาร จึงต้องจัดระเบียบการเลี้ยงสัตว์ในเขตป่าอนุรักษ์โดยด่วน


นายดำรัส กล่าวต่อว่า ชาวบ้านปิล็อกคี่ได้รับการผ่อนปรนให้อยู่อาศัยและทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 แต่ต้องไม่สร้างผลกระทบต่อผืนป่าและสัตว์ป่า หากประกอบอาชีพเลี้ยงวัว-ควาย ต้องเลี้ยงเฉพาะในพื้นที่ที่อนุญาตให้อยู่อาศัยและทำกิน จะเลี้ยงปล่อยไม่ได้

จากการสืบสวนเชิงลึกพบข้อมูลว่า วัว-ควายที่ชาวบ้านเลี้ยงเป็นของนายทุนซึ่งจ่ายค่าจ้างให้ โดยปล่อยให้หากินเองในป่า จึงเป็นการกระตุ้นให้เสือออกมากินเหยื่อและทำร้ายชาวบ้านที่ไปดูแลฝูงวัว-ควายได้ ขณะที่ชาวบ้านไม่พอใจที่เสือกินวัว-ควายจึงยิงเสือดังเหตุที่เกิดขึ้น นอกจากนี้การนำปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงเข้าไปในป่ายังอาจทำให้โรคระบาดแพร่ไปสู่สัตว์ป่าได้ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบนิเวศ

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ร่วมประชุมแนวทางความร่วมมือในการอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งในพื้นที่ป่าตะวันตกตอนใต้ ร่วมกับหลายหน่วยงานซึ่งเห็นร่วมกันว่า ต้องสำรวจประชากรเสือโคร่งและเหยื่อในพื้นที่ผืนป่าตะวันตกตอนใต้และกำหนดแนวทางอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง 


Mr. Tim Redford มูลนิธิฟรีแลนด์ประเทศไทย รายงานผลการดำเนินโครงการประเมินประชากรเสือโคร่งและเหยื่อในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมในผืนป่าตะวันตกตอนใต้ของประเทศไทย (WEFCOM) ซึ่งยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ทำกินของราษฎรบ้านปิล็อกคี่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) จะติดตั้งกล้องดักถ่ายทั้งในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และเขตป่ารอยต่อไทย-เมียนมา เพื่อถ่ายภาพเสือโคร่งและเหยื่อ แล้วนำข้อมูลมาวางแผนในการผลักดันเสือโคร่งเข้าป่าลึก รวมทั้งวางแผนอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งในเขตป่ารอยต่อชายแดนไทยและเมียนมาด้วย

นางสาวสุปราณี กำปงชัน องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) แผนงานประเทศไทย ระบุว่า โครงการสร้างความเข้มแข็งในการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาของ IUCN ไม่สามารถดำเนินการในฝั่งเมียนมา จึงจะนำงบประมาณมาดำเนินโครงการบริเวณอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิและอุทยานแห่งชาติลำคลองงูใน พ.ศ. 2565 นอกจากนั้นยังมีแผนขอสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก GEF-8 ในการอนุรักษ์เสือโคร่งร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในระยะยาว 10 ปี 

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติกำหนดแนวทางดำเนินการ ดังนี้

– ร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในการอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งและเหยื่อ ระยะเวลา 10 ปี โดยเสนอกรมอุทยานแห่งชาติฯ พิจารณาต่อไป

– เร่งสำรวจข้อมูลวัว-ควาย ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ในโซนป่าตะวันตก ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาในการเลี้ยงวัว-ควายในป่าอนุรักษ์

– เมื่อได้ข้อมูล วัว ควาย ในเขตอุทยานแห่งชาติและในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแล้ว จะดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล โดยกรณีที่พบว่า มีกลุ่มนายทุนนอกพื้นที่ที่จ้างให้ราษฎรในพื้นที่มาเลี้ยงวัว-ควาย ในป่าอนุรักษ์ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าเป็นราษฎรในพื้นที่เป็นเจ้าของเลี้ยงวัว-ควายในป่าตามวิถีชีวิตของชุมชนในป่า ให้หามาตรการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับชุมชนต่อไป 

– ออกประกาศห้ามเลี้ยงวัว-ควายในเขตอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในผืนป่าตะวันตกตอนใต้ทั้งหมด เว้นแต่ในพื้นที่ผ่อนปรน ตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 หากฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 21 ประกอบมาตรา 48 วรรคสอง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับหรือ มีความผิดตามมาตรา 55 (6) ประกอบมาตรา 102 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้