กรุงเทพฯ 18 ม.ค.- EA ย้ำรายได้ธุรกิจEV ปีนี้ก้าวกระโดด เร่งเจรจาลูกค้าส่งมอบรถยนต์อีวีเชิงพาณิชย์ หลังโรงงานแล้วเสร็จทั้งแบตฯ-โรงงานประกอบรถยนต์-ธุรกิจสถานีชาร์จ พร้อมออกหุ้นกู้แปลงสภาพ 900 ล้านยูโรในครึ่งแรกปี 65 รองรับขยายงาน
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่าปีนี้ บริษัทได้เพิ่มประมาณการสัดส่วนรายได้ ของธุรกิจเกี่ยวเนื่องยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี ) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 25-30 ในขณะที่สัดส่วนของธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนลดสัดส่วนจากร้อยละ 60 เหลือร้อยละ 45-50 และธุรกืจไบโอดีเซลลดจากร้อยละ 35เหลือร้อยละ 25 ซึ่งจากธุรกิจอีวีที่เป็น” โซลูชั่นโพรไวเตอร์”บริการลูกค้า ครบวงจรทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ แบตเตอรี่ และสถานีชาร์จไฟฟ้า ประกอบกับนโยบายรัฐบาลสนับสนุนเรื่องอีวี ที่แพกเก็จอีวีกำลังจะเสนอ ครม. รัฐสนบสนุน เรื่องลดภาวะโลกร้อน ในขณะทีความนิยมของประชาชนในอีวีมีมากขึ้น ก็นับเป้นโอกาสของEA และจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในปีนี้เติบโตในอัตรานับสิบเปอร์เซนต์จากปีก่อน
“ยอดขายรถบัสไฟฟ้าในไทยปีที่แล้วมีกว่า 120 คัน ในปีนี้มีราว 500 คันแล้ว จากยอดผลิตของโรงงานราว 3 พันต่อปี โดยบริษัทเสนอขายในรูปแบบโซลูชั่นโพรไวเดอร์ ครบวงจร และเร่งเข้าหาลูกค้า ซึ่งจากปัญหาโควิด-19 ในช่วง 2 ปีนี้ ก็ทำให้ต้องปรับแผนจากเดิมจะผลิตรถยนต์นั่ง มามุ่งเป็นรถบัส,รถบรรทุก โดยในส่วนรถบรรทุกมียอดจดทะเบียนใหม่ราว 0.9-1 แสนคัน/ปี ซึ่ง EA ก็คาดว่าจะได้ส่วนแบ่งในส่วนนี้”นายอมร กล่าว
สำหรับ EA มีบริษัทในเครือเป็นผู้ผลิตรถอีวี คือ บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) ซึ่ง EA ถือหุ้นร่วมกับ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่การผลิตของโรงงานประมาณ 55,000ตารางเมตร มีกำลังการผลิตที่ 3,000 คันต่อปี (1กะ) หากผลิตเต็มกำลังการผลิตจะประกอบรถไฟฟ้าได้ 6,000คันต่อปี .ในขณะที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบสำรองไฟฟ้าของEA ภายใต้ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด มีกำลังการผลิตเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งระยะแรกนี้มีความพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิตได้สูงสุดถึง 4 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีในทันที ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้าปัจจุบันมี 500 สถานี จำนวน 2 พันห้วจ่าย ในปีนี้ พร้อมจะขยายเพิ่มเติมโดยเน้นสถานีระหว่างเมืองใหญ่ เพื่อสนับสนุนรถเชิงพาณิชย์
ส่วนการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ของบริษัท (หุ้นกู้แปลงสภาพ) มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 900 ล้านยูโร หรือเงินสกุลอื่นใดในจำนวนเทียบเท่า อายุไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้แปลงสภาพ :ซึ่งคาดว่าจะออกได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ภาพรวมแล้วก็จะเป็นผลดีด้านต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำมากจะไม่เกินร้อยละ 0.25 และเป็นช่วงเหมาะสม เพราะทิศทางดอกเบี้ยโลกจะปรับขึ้น โดยเงินที่ได้จะนำใช้เพื่อบริหารจัดการกระแสเงินสดของบริษัทฯ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ได้แก่ ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและสร้างความแข็งแกร่งทางโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯ
ส่วนธุรกิจไบโอดีเซลบริษัทยังคาดยอดขายจะอยู่ที่ 100-200 ล้านลิตร/ปี โดยเป็นธุรกิจที่มีมาร์จินคงที่แต่ปีนี้รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องมีเงินมาหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบสูงขึ้น เพราะราคาปาล์มแพงขึ้นมาก ล่าสุดผลปาล์มดิบอยู่ที่ประมาณ 11 บาท/กก. น้ำมันปาล์มดิบ 56 บาท/กก. และไบโอดีเซลบี 100 อยู่ที่ประมาณ 60 บาท/ลิตร
ด้านธุรกิจไฟฟ้าทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์มีกำลังผลิตราว 664 เมกะวัตต์ ในส่วนนี้กำลังผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลังรัฐบาลสนับสนุนลดโลกร้อนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี ) ฉบับใหม่ที่คาดว่าจะเริ่มประกาศได้ในปี 2565 โดยคาดว่าเพื่อให้ไฟฟ้ามีเสถียรภาพ ก็จะมีการใช้แบตเตอรี่เข้ามาสำรองไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อโรงงานผลิตแบตเตอรี่
ส่วนเรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry ที่บริการประชาชนในแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้ให้บริการรวม 27 ลำ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 200 คน/ลำ โดยยอมรับว่าผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้มีผู้โดยสารเหลือเพียงร้อยละ30 เท่านั้น แต่บริษัทขอยืนยันไม่ปรับค่าบริการ และกำลังออกแบบเรือให้เล็กลง เพื่อวิ่งบริการได้ถี่ขึ้น รวมทั้งมองหาเส้นทางน้ำอื่นๆไม่ว่าจะเป็นคลอง หรือทะเล เพื่อจะเปิดบริการให้มากขึ้น รองรับทั้งการโดยสารของประชาชนและนักท่องเที่ยว ยอมรับว่าจุดคุ้มทุนอาจใช้เวลานาน แต่บริษัทก็มุ่งจะลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมใช้ไฟฟ้าทดแทนเครื่องยนต์น้ำมัน.-สำนักข่าวไทย