EA เร่งปั๊มรายได้ธุรกิจEV

กรุงเทพฯ 18 ม.ค.- EA ย้ำรายได้ธุรกิจEV ปีนี้ก้าวกระโดด เร่งเจรจาลูกค้าส่งมอบรถยนต์อีวีเชิงพาณิชย์ หลังโรงงานแล้วเสร็จทั้งแบตฯ-โรงงานประกอบรถยนต์-ธุรกิจสถานีชาร์จ    พร้อมออกหุ้นกู้แปลงสภาพ 900 ล้านยูโรในครึ่งแรกปี 65 รองรับขยายงาน


นายอมร  ทรัพย์ทวีกุล  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่าปีนี้ บริษัทได้เพิ่มประมาณการสัดส่วนรายได้ ของธุรกิจเกี่ยวเนื่องยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี ) เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 25-30 ในขณะที่สัดส่วนของธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนลดสัดส่วนจากร้อยละ 60 เหลือร้อยละ 45-50 และธุรกืจไบโอดีเซลลดจากร้อยละ 35เหลือร้อยละ 25 ซึ่งจากธุรกิจอีวีที่เป็น” โซลูชั่นโพรไวเตอร์”บริการลูกค้า ครบวงจรทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ แบตเตอรี่ และสถานีชาร์จไฟฟ้า ประกอบกับนโยบายรัฐบาลสนับสนุนเรื่องอีวี ที่แพกเก็จอีวีกำลังจะเสนอ ครม. รัฐสนบสนุน เรื่องลดภาวะโลกร้อน ในขณะทีความนิยมของประชาชนในอีวีมีมากขึ้น ก็นับเป้นโอกาสของEA และจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทในปีนี้เติบโตในอัตรานับสิบเปอร์เซนต์จากปีก่อน 

“ยอดขายรถบัสไฟฟ้าในไทยปีที่แล้วมีกว่า 120 คัน ในปีนี้มีราว 500 คันแล้ว  จากยอดผลิตของโรงงานราว 3 พันต่อปี โดยบริษัทเสนอขายในรูปแบบโซลูชั่นโพรไวเดอร์ ครบวงจร และเร่งเข้าหาลูกค้า ซึ่งจากปัญหาโควิด-19 ในช่วง 2 ปีนี้ ก็ทำให้ต้องปรับแผนจากเดิมจะผลิตรถยนต์นั่ง มามุ่งเป็นรถบัส,รถบรรทุก โดยในส่วนรถบรรทุกมียอดจดทะเบียนใหม่ราว 0.9-1 แสนคัน/ปี ซึ่ง EA ก็คาดว่าจะได้ส่วนแบ่งในส่วนนี้”นายอมร กล่าว


  สำหรับ EA มีบริษัทในเครือเป็นผู้ผลิตรถอีวี คือ บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB)  ซึ่ง EA ถือหุ้นร่วมกับ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่การผลิตของโรงงานประมาณ 55,000ตารางเมตร มีกำลังการผลิตที่ 3,000 คันต่อปี (1กะ) หากผลิตเต็มกำลังการผลิตจะประกอบรถไฟฟ้าได้ 6,000คันต่อปี  .ในขณะที่โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบสำรองไฟฟ้าของEA ภายใต้ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด มีกำลังการผลิตเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งระยะแรกนี้มีความพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิตได้สูงสุดถึง 4 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปีในทันที  ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้าปัจจุบันมี 500  สถานี จำนวน 2 พันห้วจ่าย ในปีนี้ พร้อมจะขยายเพิ่มเติมโดยเน้นสถานีระหว่างเมืองใหญ่ เพื่อสนับสนุนรถเชิงพาณิชย์ 

 ส่วนการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพที่ออกใหม่ของบริษัท (หุ้นกู้แปลงสภาพ) มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 900 ล้านยูโร หรือเงินสกุลอื่นใดในจำนวนเทียบเท่า อายุไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันออกหุ้นกู้แปลงสภาพ :ซึ่งคาดว่าจะออกได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ภาพรวมแล้วก็จะเป็นผลดีด้านต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำมากจะไม่เกินร้อยละ 0.25 และเป็นช่วงเหมาะสม เพราะทิศทางดอกเบี้ยโลกจะปรับขึ้น โดยเงินที่ได้จะนำใช้เพื่อบริหารจัดการกระแสเงินสดของบริษัทฯ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ รวมถึงเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ ได้แก่ ธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและสร้างความแข็งแกร่งทางโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯ 

ส่วนธุรกิจไบโอดีเซลบริษัทยังคาดยอดขายจะอยู่ที่ 100-200 ล้านลิตร/ปี โดยเป็นธุรกิจที่มีมาร์จินคงที่แต่ปีนี้รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องมีเงินมาหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบสูงขึ้น เพราะราคาปาล์มแพงขึ้นมาก ล่าสุดผลปาล์มดิบอยู่ที่ประมาณ 11 บาท/กก. น้ำมันปาล์มดิบ 56 บาท/กก. และไบโอดีเซลบี 100 อยู่ที่ประมาณ 60 บาท/ลิตร


ด้านธุรกิจไฟฟ้าทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์มีกำลังผลิตราว 664 เมกะวัตต์  ในส่วนนี้กำลังผลิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลังรัฐบาลสนับสนุนลดโลกร้อนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี ) ฉบับใหม่ที่คาดว่าจะเริ่มประกาศได้ในปี 2565 โดยคาดว่าเพื่อให้ไฟฟ้ามีเสถียรภาพ ก็จะมีการใช้แบตเตอรี่เข้ามาสำรองไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อโรงงานผลิตแบตเตอรี่

ส่วนเรือไฟฟ้า  MINE Smart Ferry ที่บริการประชาชนในแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้ให้บริการรวม 27 ลำ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 200 คน/ลำ โดยยอมรับว่าผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้มีผู้โดยสารเหลือเพียงร้อยละ30  เท่านั้น แต่บริษัทขอยืนยันไม่ปรับค่าบริการ และกำลังออกแบบเรือให้เล็กลง เพื่อวิ่งบริการได้ถี่ขึ้น รวมทั้งมองหาเส้นทางน้ำอื่นๆไม่ว่าจะเป็นคลอง หรือทะเล เพื่อจะเปิดบริการให้มากขึ้น รองรับทั้งการโดยสารของประชาชนและนักท่องเที่ยว ยอมรับว่าจุดคุ้มทุนอาจใช้เวลานาน แต่บริษัทก็มุ่งจะลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมใช้ไฟฟ้าทดแทนเครื่องยนต์น้ำมัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]