กรุงเทพฯ 7 ม.ค. – นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยคาด ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์จะยังคงสูงต่อเนื่องอีก 6-7 เดือน เห็นด้วยที่รัฐจะงดภาษีนำเข้าเพราะวัตถุดิบในประเทศไม่เพียงพอ ส่วนการเพิ่มการผลิตวัตถุดิบด้วยการกระตุ้นปลูก “ข้าวโพดหลังนา” ควรทำก่อนเข้าฤดูแล้งปีนี้ ซึ่งไม่ทันการณ์แล้ว
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยระบุว่า ค่าอาหารสัตว์คิดเป็น 60% ของต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ โดยข้าวโพดเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของอาหารสุกรซึ่งผู้ผลิตอาหารสัตว์จำเป็นต้องนำเข้าเพื่อทดแทนผลผลิตข้าวโพดในประเทศซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ราคาข้าวโพดปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่กันยายน 2563 เนื่องจากความต้องการในจีนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับอาร์เจนตินามีนโยบายจำกัดปริมาณการส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อสำรองไว้ใช้ในประเทศด้วยประสบภัยแล้ง เช่นเดียวกับยูเครนและบราซิลที่ผลผลิตมีจำกัด จนถึงปลายปี 2564 สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายทำให้ความต้องการข้าวโพดอาหารสัตว์จึงเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้ราคาข้าวโพดในตลาดโลกสูงขึ้นประมาณ 15-20% เมื่อต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจึงกระทบราคาเนื้อสุกรตามกลไกตลาด
สำหรับมาตรการงดภาษีนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์นั้น ทางสมาคมฯ ขอมา 2 ปีแล้วซึ่งภาครัฐไม่งดเว้นให้ เพิ่งจะเตรียมออกมาตรการเมื่อเนื้อสุกรแพงขึ้น ส่วนโครงการ “ข้าวโพดหลังนา” ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำหลายปีก่อนเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวโพดและสร้างรายได้ให้เกษตรกร ระยะหลังไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง พื้นที่ที่มีศักยภาพปลูก 2,000,000 ล้านไร่จึงปลูกเพียง 700,000 ไร่ ดังนั้นการขยายพื้นที่ในฤดูแล้งนี้ ทำไม่ทันแล้ว ต้องเป็นปีหน้า
นอกจากนี้ยังเห็นด้วยที่จะนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งไม่ต้องเจรจาอะไรมากเนื่องจากนำเข้าได้โดยข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งมีการลดภาษีสินค้าอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาภาครัฐสร้างข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าที่จำเป็นมากเกินไปและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นล่าช้า.-สำนักข่าวไทย