เปิดผลสำรวจCEO พร้อมหรือไม่กับเป้าหมาย Net Zero

กรุงเทพฯ 22 ธ.ค.- ส.อ.ท. เปิดผลสำรวจ CEO  “พร้อมหรือไม่? กับเป้าหมาย Net Zero” ระบุภาคอุตสาหกรรมจะต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้ ระเบียบวิธีการที่มีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศ


นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่13 ในเดือนธันวาคม 2564 ภายใต้หัวข้อ “พร้อมหรือไม่? กับเป้าหมาย Net Zero” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. เห็นด้วยกับเป้าหมายของประเทศไทยในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ. 2608) โดยมองว่า การปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและการจัดหาพลังงานสะอาดให้เพียงพอกับความต้องการ เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล จะเป็นประเด็นท้าทายของประเทศไทยในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ซึ่งภาคอุตสาหกรรมจะต้องปรับตัวเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ภายใต้ ระเบียบวิธีการที่มีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศ เพื่อให้เกิดการใช้กลไกตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 160 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด  จาก 7 คำถาม ดังนี้


1. ภาคอุตสาหกรรมมีความเห็นอย่างไรกับเป้าหมายของประเทศ ในการเป็น Carbon Neutrality ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) และ Net Zero ภายในปี 2065 (พ.ศ. 2608) 

อันดับที่ 1 : เห็นด้วย   70.7%

อันดับที่ 2 : ควรขยายเป้าหมายออกไปอีก 5 – 10 ปี  16.2% 


อันดับที่ 3 : ควรปรับเป้าหมายให้เร็วขึ้น  13.1% 

2. ภาคอุตสาหกรรมมีความพร้อมในการซื้อขายคาร์บอนเครดิตหรือไม่ เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่ Carbon Neutrality

อันดับที่ 1 : อยู่ระหว่างศึกษา   72.5% 

อันดับที่ 2 : มีความพร้อมดำเนินการได้ทันที  17.5%

อันดับที่ 3 : ยังไม่มีความพร้อม   10.0%

3. ปัจจัยใดจะช่วยส่งเสริมให้กลไกตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตและแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตให้มีประสิทธิภาพเพื่อสนับสนุนการเป็น Carbon Neutrality

อันดับที่ 1 : ระเบียบวิธีการที่มีความเหมาะสมกับบริบทของประเทศและไม่ซับซ้อน     73.1%        

อันดับที่ 2 : มาตรการหรือสิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต เช่น มาตรการด้านการเงิน    72.5%  

อันดับที่ 3 : การพัฒนากลไกตลาดและมาตรฐานการซื้อขายคาร์บอนเครดิตของประเทศให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล   68.1%

อันดับที่ 4 : ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ในระดับที่เหมาะสม        66.9%

4. ประเด็นท้าทายของไทยในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero

อันดับที่ 1 : การปรับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และการจัดหาพลังงานสะอาดให้เพียงพอกับความต้องการเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล 75.0%          

อันดับที่ 2 : นโยบาย กฎระเบียบ และมาตรการจูงใจที่สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG)   72.5%       

อันดับที่ 3 : เทคโนโลยี/นวัตกรรมคาร์บอนต่ำ รวมทั้งเทคโนโลยีกักเก็บและการนำคาร์บอนไปใช้ประโยชน์ (CCUS) ที่มีราคาเหมาะสม  66.9%   

อันดับที่ 4 : การสร้างจิตสำนึกและความตระหนักของผู้บริโภคเพื่อให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์/บริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  62.5%        

5. ภาคส่วนใดที่มีส่วนสำคัญที่สุดในการทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net Zero

อันดับที่ 1 : ภาคพลังงานและขนส่ง    50.0%

อันดับที่ 2 : ภาคกระบวนการอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์   29.4%

อันดับที่ 3 : ภาคการจัดการของเสีย    11.3%

อันดับที่ 4 : ภาคเกษตรกรรม      9.3%

6. ภาคอุตสาหกรรมจะต้องปรับตัวมากน้อยเพียงใด จากเป้าหมาย Net Zero 

อันดับที่ 1 : ต้องปรับตัวเพราะเป็นโอกาสทางธุรกิจ   55.0%  

อันดับที่ 2 : ต้องปรับตัวบ้าง     24.4%

อันดับที่ 3 : ต้องปรับตัวอย่างมาก เพราะได้รับผลกระทบโดยตรง   20.6%

7. ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลต่อการปฏิบัติตามมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเรื่องใด 

อันดับที่ 1 : กฎระเบียบใหม่ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ     68.8% 

อันดับที่ 1 : ต้นทุนทางการเงินในการปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อลดการปล่อย GHG และราคาพลังงานทดแทนอาจสูงขึ้น 68.8% 

อันดับที่ 3 : มาตรการและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เช่น CBAM, การติดฉลากคาร์บอน  59.4%   

อันดับที่ 4 : มาตรฐานการคำนวณและรับรองคาร์บอนเครดิตที่มีความแตกต่างกัน   51.2% .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังฮามาสปล่อยตัว

“พิพัฒน์” เผย 5 แรงงานไทยปลอดภัยดี พูดคุยปกติ หลังได้รับการปล่อยตัว มอบปลัดแรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์กองทุนฯ ต่างประเทศ และประกันสังคม

นายกฯ ยินดีหลังได้รับยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว

“นายกฯ แพทองธาร” ยินดีหลังได้รับการยืนยัน 5 คนไทยได้รับการปล่อยตัวจากกาซาแล้ว สั่ง รมต.ต่างประเทศ เดินทางไปรับตัวกลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำหรับการช่วยเหลือ หวังคนไทยที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ฮามาสปล่อย 5 ตัวประกันคนไทยแล้ว

อิสราเอลยืนยัน 5 ตัวประกันคนไทย อยู่กับสภากาชาดสากลแล้ว กำลังเดินทางข้ามแดนเข้าอิสราเอล หลังถูกกลุ่มฮามาสจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก

ศาลธัญบุรีให้ประกัน “ต้า โอริโอ้” กับพวก คนละ 1 เเสนบาทคดีร่วมกันทำร้ายโดยใช้อาวุธ ออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้ผู้เสียหาย นัดรายงานตัว 24 เม.ย.นี้