ทำเนียบฯ 21 ธ.ค.-ครม.ไฟเขียวให้รฟท.จ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่อดีตผู้ปฏิบัติงานในอัตรา 15 เท่าของเงินสงเคราะห์รายเดือน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท จากเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 200,000 บาท
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)จ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่อดีตผู้ปฏิบัติงานของรฟท.ในอัตรา 15 เท่าของเงินสงเคราะห์รายเดือน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 200,000 บาท ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 โดยจะใช้เงินของรฟท.ได้แก่ รายได้การโดยสาร รายได้การขนส่งสินค้า รายได้จากการบริหารทรัพย์สินฯ และรายได้อื่นๆที่หมุนเวียนเข้ามาในแต่ละเดือน ซึ่งได้ประมาณการวงเงินที่จะใช้ตามวิธีการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพรวม 1,774.99 ล้านบาท แยกเป็นปี 2565 จำนวน 677.50 ล้านบาท, ปี 2566 จำนวน 603.51 ล้านบาท, ปี 2567 จำนวน 110.04 ล้านบาท, ปี 2568 จำนวน 174.56 ล้านบาท และปี 2569 จำนวน 209.38 ล้านบาท
ขณะเดียวกันครม.ยังได้เห็นชอบการแก้ไขข้อบังคับการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 4.9 กองทุนผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อรองรับการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่อดีตผู้ปฏิบัติงานของรฟท. เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพพ.ศ.2562 ที่มีการปรับอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการผู้รับบำนาญไปก่อนหน้านี้แล้ว และเพื่อเป็นการช่วยให้อดีตผู้ปฏิบัติงานของรฟท.สามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพเป็นการแบ่งเงินบำเหน็จตกทอดบางส่วนที่จะจ่ายให้กับทายาทของผู้รับบำนาญเมื่อผู้รับบำนาญเสียชีวิตไปแล้ว มาจ่ายให้กับผู้รับบำนาญในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเงินที่จะต้องจ่ายบำเหน็จดำรงชีพเป็นเงินส่วนที่รฟท. มีพันธะจะต้องจ่ายให้อยู่แล้วมาจ่ายก่อน จึงไม่มีภาระทางการเงินเพิ่มเติมแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย