นนทบุรี 8 ก.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์เผยโครงการ “จับคู่กู้เงิน” ช่วยร้านอาหาร กับ SMEs ส่งออกช่วงพิษโควิดได้กว่า 6,000 ล้านบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงผลสัมฤทธิ์โครงการจับคู่กู้เงินสถานบันการเงินกับร้านอาหาร และจับคู่กู้เงินสถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก โดยผลการดำเนินการ “จับคู่กู้เงิน” ที่จบโครงการในเฟสที่หนึ่งแล้ว ซึ่งมีด้วยกัน 2 ส่วน โครงการที่ 1 จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร โครงการที่ 2 จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก โดยมีผลสัมฤทธิ์สำหรับโครงการ จับคู่กู้เงินสถาบันการเงินกับร้านอาหาร เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนถึงวันที่ 7 กันยายน 2564 มี 5 สถาบันการเงินเข้าร่วมโครงการประกอบด้วยธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย SME D Bank และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้มีการอนุมัติเงินกู้เพื่อต่อลมหายใจให้กับธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้นกำลังประสบปัญหาเพราะสถานการณ์โควิด และต้องการเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนหรือต่อลมหายใจ โดยผลการดำเนินการมาจนถึงปิดโครงการเฟสแรกได้มีการอนุมัติวงเงินไปทั้งสิ้น 2,600 ล้านบาทแล้ว
ทั้งนี้ ได้อนุมัติสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษจำนวน 2,865 ราย และยังรออนุมัติอีกจำนวนหนึ่งคาดว่าจะอยู่ในวงเงินอีกประมาณ 220 ล้านบาทโครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับ SMEsส่งออกนั้น ซึ่งได้มีการอนุมัติวงเงินสินเชื่อไปแล้ว 1,010 ล้านบาท เป็นจำนวนทั้งสิ้น 190 ราย ทั้ง 2 โครงการสามารถอนุมัติวงเงินไปแล้วทั้งสิ้น 3,610 ล้านบาท หรือประมาณ 3,600 ล้านบาท จำนวน 3,055 ราย
สำหรับโครงการจับคู่กู้เงินสถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออกนั้นจะดำเนินการต่อไปในเฟสที่ 2 โดยจะต่ออายุโครงการออกไปอีก 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนปีนี้ ถึงวันที่ 7 เดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าช่วงเฟสที่ 2 นี้จะสามารถอนุมัติวงเงินต่อลมหายใจให้ SMEs ส่งออกได้อีกไม่ต่ำกว่าอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ จับมือ กับสถาบันการเงินเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่ในภาพรวมของรัฐบาลที่มีหลายกระทรวง แต่กระทรวงพาณิชย์กับสถาบันการเงินร่วมมือกันในโครงการ”จับคู่กู้เงิน” นี้คาดว่าจะช่วยปล่อยวงเงินสินเชื่อเพิ่มเงินหมุนเวียนให้กับธุรกิจร้านอาหารและ SMEs ส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท
น.ส.ประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู๊ด กล่าวว่า ได้กล่าวขอขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับโครงการดีๆโดยระบุว่าพวกเราร้่นอาหารยังได้ยืดลมหายใจและในส่วนตนเองก็ได้กู้จากธนาคารออมสินในวงเงิน 5,000,000 บาท และก็ยังมีสมาชิกที่กำลังขอและรอการอนุมัติอีกหลายราย แต่ถ้าสามารถต่อไปได้จะดีมาก ทุกคนอยากจะให้มีโครงการดีๆอย่างนี้ต่อยอดลมหายใจให้ผู้ประกอบการ เนื่องจากว่าระยะของโควิดที่ติดเชื้อยาวนานเหลือเกินเพราะว่าการที่จะอยู่รอดได้จะต้องมีสายป่านที่ยาวขึ้น เพราะฉะนั้นวงเงินตรงนี้อย่างน้อยจะช่วยเยียวยาและช่วยให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ ต้องขอขอบคุณโครงการดีๆและอยากให้มีโครงการในลักษณะเช่นนี้ต่อไปเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจในเดินหน้าต่อไปได้.-สำนักข่าวไทย