สรท.มองส่งออกตลอดปี 64 เติบโตได้แน่ร้อยละ 10

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – สรท.มองส่งออกไทยอยู่ในช่วงขาขึ้นแรงหนุนจากราคาน้ำมัน ค่าเงินบาทออนค่า แม้เชื้อเดลต้ายังระบาดหนัก แต่สหรัฐมั่นใจวัคซีนน่าจะเอาอยู่ส่งผลให้การส่งออกไทยมีโอกาสเติบโต 2 หลักหรือมากกว่าร้อยละ 10 พร้อมเสนอแนะภาครัฐเร่งช่วยเหลือภาคธุรกิจให้เข้มแข็ง


นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. กล่าวถึงสถานการณ์ส่งออกเดือนมิถุนายน ประจำเดือน กรกฎาคม 2564 ว่า ภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดทั่วโลกในช่วงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมามีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน 64 มีอัตราการเติบโตถึงร้อยละ 43.82 หรือมีมูลค่ากว่า 23,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐถือเป็นอัตราเติบโตเป็นประวัติการณ์และยังมองว่าในช่วง 6 เดือนที่เหลือในปีนี้ทิศทางการส่งออกของไทยจะยังเติบโตได้ดีอยู่ คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 การส่งออกจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 60,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐและไตรมาสที่ 4 อีก 60,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้ตัวเลขการส่งออกตลอดปี 64 จะมีอัตราการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ซึ่งเป็นตัวเลขเติบโตได้ถึง 2 หลัก

อย่างไรก็ตาม แม้วาขณะนี้ปัจจัยผลกระทบจากความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นไปทั่วโลกในหลายประเทศขณะนี้รวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น แต่ด้วยหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกามองว่าวัคซีนที่มีอยู่ขณะนี้จะสามารถป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้พอสมควรและมีทิศทางจะสามารถควบคุมได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งหากสหรัฐสามารถควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิดได้ก็น่าจะทำให้ทิศทางเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวได้แน่นอน ซึ่งจะทำให้ทิศทางการส่งออกกลับมาดีขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะทิศทางของราคาน้ำมันจะมาอยู่ที่ 75-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทเป็นตัวเสริมอีกทางหนึ่งที่อยู่ในช่วงออนค่าส่งผลหนุนภาคการส่งออกได้ดี ดังนั้น ด้วยปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะส่งผลให้ทิศทางการส่งออกโดยเฉลี่ยต่อเดือนหลังจากนี้ไปยังจะเกินกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปได้


สำหรับข้อเสนอแนะและความเห็นของ สรท. นั้นไม่เห็นด้วยกับมาตรการ Fully Lockdown โดยขอยกเว้นให้ภาคการผลิตและกิจกรรมโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและนําเข้า อาทิ การปฏิบัติงานของท่าเรือ การขนส่งสินค้าเข้าสู่ท่าเรือ ยังสามารถดําเนินการได้ต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อสัญญาการค้าระหว่างปร ะเทศ และหลายธุรกิจมี สัดส่วนการผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ หากมีการหยุดประกอบการ จะส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ภายในประเทศตามมาในท่ีสุด และ สรท. เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนโดยเฉพาะ แรงงานภาคอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกให้เร็วที่สุด และเรียกร้องให้มีการปรับใช้มาตรการทางสาธารณสุขที่เป็น มาตรฐานเดียวจากส่วนกลางเพื่อให้สามารถดําเนินการเหมือนกันในแต่ละพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะกรณีโรงงานท่ีมีพนักงานอยู่ใน กลุ่มเสี่ยง รวมถึงเรียกร้องให้หน่วยงานราชการเร่งปรับปรุงการทํางานในการจัดการด้านเอกสารออนไลน์ (e-Document) และการขออนุญาต/ใบรับรองเพ่ือการส่งออกนําเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) เพื่อลดการสัมผัสจากการเข้าไปติดต่อราชการได้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน