3 ประเทศขานรับเร่งปรับใช้รองรับ “e-Form D”แบบอิเล็กทรอนิกส์

นนทบุรี 19 ก.ค.-3 ประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว- กัมพูชา-เมียนมาขานรับเร่งปรับหันมาใช้รองรับ “e-Form D” เต็มรูปแบบในการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้กรอบอาเซียน เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าผ่านแบบอิเล็กทรอนิกส์ ย้ำ 3 ประเทศกำลังเร่งดำเนินการคาดอนาคตเอกชนจะได้รับความสะดวกการค้าเพิ่มมากขึ้น


นายกีรติ รัชโน

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าการประชุมคณะอนุกรรมการเขตการค้าเสรีครั้งที่ 3/2564 เมื่อไม่นานมานี้ ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในฐานะตัวแทนภาคเอกชนได้แจ้งปัญหาเกี่ยวกับความไม่พร้อมเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ สปป. ลาว กัมพูชาและเมียนมา โดยเฉพาะด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ยังไม่รองรับการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “e-Form D” ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อมูลหนังสือรับรองฯ แบบไร้เอกสาร (paperless) ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยบางด่านศุลกากรของ 3 ประเทศดังกล่าวยังมีการร้องขอให้ยื่นเอกสาร Form D แบบกระดาษ ควบคู่กับการส่งข้อมูล e-Form D ในระบบ ในการขอใช้สิทธิพิเศษลดหย่อนอากรขาเข้าภายใต้กรอบอาเซียน โดย Form D แบบกระดาษ จะต้องถูกส่งไปตรวจอนุมัติการให้สิทธิฯ ที่เมืองหลวงหรือส่วนกลางประเทศนั้น ๆ 


ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจรับทราบว่าผู้ประกอบการไทยประสบปัญหาในการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีดังกล่าว ในฐานะหน่วยงานออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าให้ผู้ประกอบการนำไปใช้สิทธิฯ และผู้แทนไทยในการประชุมคณะอนุกรรมการความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียนด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (SC-AROO) ได้ทำงานร่วมกับกรมศุลกากร หยิบยกประเด็นขึ้นหารือในที่ประชุมของเจ้าหน้าที่อาเซียน 10 ประเทศ ในการประชุม SC-AROO ครั้งที่ 36 เมื่อวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2564 ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยได้เรียกร้องให้ สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา เร่งปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถใช้ e-Form D ได้ในทุกด่านและยกเลิกการขอ Form D แบบกระดาษ ควบคู่ e-Form D โดยเร็ว และได้ขอให้เร่งดำเนินการอนุมัติการใช้สิทธิฯ ได้ที่ด่านศุลกากร ณ ด่านชายแดน ในกรณีที่ต้องใช้ Form D แบบกระดาษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและส่งเสริมการค้าระหว่างกัน 

อย่างไรก็ตาม โดยล่าสุด กรมฯ ได้รับแจ้งข่าวดีจาก สปป.ลาว ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา สปป.ลาว สามารถใช้ e-form D ได้เต็มรูปแบบแล้ว โดยได้ยกเลิกการขอ Form D แบบกระดาษ ควบคู่กับการใช้ e-Form D ในการรับสิทธิพิเศษภายใต้กรอบอาเซียนตามที่ฝ่ายไทยเรียกร้อง ซึ่งการใช้ e-form D ได้เต็มรูปแบบจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถใช้สิทธิฯ ส่งออกไป สปป.ลาว ได้คล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่ผู้แทนกัมพูชาแจ้งว่า สามารถรับ e-Form D ได้ทุกด่านแล้ว สำหรับการใช้ Form D แบบกระดาษ กัมพูชาจะเร่งอนุมัติการใช้สิทธิฯ ณ ด่านศุลกากรชายแดนให้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันได้อนุญาตให้เฉพาะผู้นำเข้าบางส่วนเท่านั้นที่สามารถใช้สิทธิฯ ณ ด่านศุลกากรชายแดนได้ทันที ส่วนรายอื่น ๆ ยังคงต้องส่งไปให้ส่วนกลางอนุมัติ ซึ่งศุลกากรกัมพูชาได้พิจารณาจากประวัติของผู้นำเข้าเป็นหลัก 

ขณะที่ผู้แทนเมียนมาแจ้งว่า เมียนมายังคงสามารถรับ e-Form D ได้เพียง 2 ด่าน คือ ย่างกุ้ง และติลาวา แต่จะเร่งพัฒนาระบบให้สามารถรองรับ e-Form D ในด่านสำคัญที่เป็น International Ports ที่เหลืออีก 6 ด่าน โดยคาดว่าภายในปี 2565 ผู้นำเข้าสามารถใช้ Form D แบบกระดาษในการขอรับสิทธิฯ ณ ด่านศุลกากรชายแดนได้ทุกด่าน โดยไม่ต้องส่งไปให้ส่วนกลางอนุมัติ 


ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศยินดีสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการส่งออก ดังนั้น ขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการหันมาใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบการค้าเสรี ซึ่งเป็นแต้มต่อที่จะสร้างโอกาสในการค้าขายและส่งออก โดยเฉพาะตลาดเพื่อนบ้านที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญไปยัง 3 ประเทศ ได้แก่ ยานยนต์เพื่อขนส่งของที่น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน น้ำที่ปรุงกลิ่นรสหรือเติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวาน อาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ชุดสายไฟจุดระเบิดและชุดสายไฟชนิดที่ใช้กับยานบก อากาศยานหรือเรือ ผ้าอนามัยและผ้าอ้อมสำหรับเด็กอ่อน และพอร์ตแลนด์ซีเมนต์และอื่นๆเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

เปิดเผยว่าการประชุมคณะอนุกรรมการเขตการค้าเสรีครั้งที่ 3/2564 เมื่อไม่นานมานี้ ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในฐานะตัวแทนภาคเอกชนได้แจ้งปัญหาเกี่ยวกับความไม่พร้อมเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของทั้ง 3 ประเทศ ได้แก่ สปป. ลาว กัมพูชาและเมียนมา โดยเฉพาะด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ยังไม่รองรับการใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “e-Form D” ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อมูลหนังสือรับรองฯ แบบไร้เอกสาร (paperless) ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยบางด่านศุลกากรของ 3 ประเทศดังกล่าวยังมีการร้องขอให้ยื่นเอกสาร Form D แบบกระดาษ ควบคู่กับการส่งข้อมูล e-Form D ในระบบ ในการขอใช้สิทธิพิเศษลดหย่อนอากรขาเข้าภายใต้กรอบอาเซียน โดย Form D แบบกระดาษ จะต้องถูกส่งไปตรวจอนุมัติการให้สิทธิฯ ที่เมืองหลวงหรือส่วนกลางประเทศนั้นๆ 

ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจรับทราบว่าผู้ประกอบการไทยประสบปัญหาในการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีดังกล่าว ในฐานะหน่วยงานออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าให้ผู้ประกอบการนำไปใช้สิทธิฯ และผู้แทนไทยในการประชุมคณะอนุกรรมการความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียนด้านกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (SC-AROO) ได้ทำงานร่วมกับกรมศุลกากร หยิบยกประเด็นขึ้นหารือในที่ประชุมของเจ้าหน้าที่อาเซียน 10 ประเทศ ในการประชุม SC-AROO ครั้งที่ 36 เมื่อวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2564 ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยได้เรียกร้องให้ สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา เร่งปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถใช้ e-Form D ได้ในทุกด่านและยกเลิกการขอ Form D แบบกระดาษ ควบคู่ e-Form D โดยเร็ว และได้ขอให้เร่งดำเนินการอนุมัติการใช้สิทธิฯ ได้ที่ด่านศุลกากร ณ ด่านชายแดน ในกรณีที่ต้องใช้ Form D แบบกระดาษ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและส่งเสริมการค้าระหว่างกัน 

อย่างไรก็ตาม โดยล่าสุด กรมฯ ได้รับแจ้งข่าวดีจาก สปป.ลาว ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา สปป.ลาว สามารถใช้ e-form D ได้เต็มรูปแบบแล้ว โดยได้ยกเลิกการขอ Form D แบบกระดาษ ควบคู่กับการใช้ e-Form D ในการรับสิทธิพิเศษภายใต้กรอบอาเซียนตามที่ฝ่ายไทยเรียกร้อง ซึ่งการใช้ e-form D ได้เต็มรูปแบบจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถใช้สิทธิฯ ส่งออกไป สปป.ลาว ได้คล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่ผู้แทนกัมพูชาแจ้งว่า สามารถรับ e-Form D ได้ทุกด่านแล้ว สำหรับการใช้ Form D แบบกระดาษ กัมพูชาจะเร่งอนุมัติการใช้สิทธิฯ ณ ด่านศุลกากรชายแดนให้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันได้อนุญาตให้เฉพาะผู้นำเข้าบางส่วนเท่านั้นที่สามารถใช้สิทธิฯ ณ ด่านศุลกากรชายแดนได้ทันที ส่วนรายอื่น ๆ ยังคงต้องส่งไปให้ส่วนกลางอนุมัติ ซึ่งศุลกากรกัมพูชาได้พิจารณาจากประวัติของผู้นำเข้าเป็นหลัก 

ขณะที่ผู้แทนเมียนมาแจ้งว่า เมียนมายังคงสามารถรับ e-Form D ได้เพียง 2 ด่าน คือ ย่างกุ้ง และติลาวา แต่จะเร่งพัฒนาระบบให้สามารถรองรับ e-Form D ในด่านสำคัญที่เป็น International Ports ที่เหลืออีก 6 ด่าน โดยคาดว่าภายในปี 2565 ผู้นำเข้าสามารถใช้ Form D แบบกระดาษในการขอรับสิทธิฯ ณ ด่านศุลกากรชายแดนได้ทุกด่าน โดยไม่ต้องส่งไปให้ส่วนกลางอนุมัติ 

ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศยินดีสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการส่งออก ดังนั้น ขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการหันมาใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบการค้าเสรี ซึ่งเป็นแต้มต่อที่จะสร้างโอกาสในการค้าขายและส่งออก โดยเฉพาะตลาดเพื่อนบ้านที่ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญไปยัง 3 ประเทศ ได้แก่ ยานยนต์เพื่อขนส่งของที่น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน น้ำที่ปรุงกลิ่นรสหรือเติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวาน อาหารปรุงแต่งอื่น ๆ ชุดสายไฟจุดระเบิดและชุดสายไฟชนิดที่ใช้กับยานบก อากาศยานหรือเรือ ผ้าอนามัยและผ้าอ้อมสำหรับเด็กอ่อน และพอร์ตแลนด์ซีเมนต์และอื่นๆ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย