ทำเนียบ 29 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ขอบคุณทหารทำหน้าที่ดีเยี่ยมปกป้องประเทศ ทำให้เห็นว่าทหารมีไว้ทำไม เสนอ ครม. ดูแลกำลังพลเป็นพิเศษ รับหลังเที่ยงคืนยังมีปะทะบางจุด เหตุทหารเขมรไม่มีวินัย ยืนยันเจรจาหยุดยิง เป็นจุดเริ่มต้นหยุดยิงถาวร รอคุยรายละเอียดต่อตามกลไก โต้เดือดสื่อฯ เจรจาไม่มีเงื่อนไขเข้าทางกัมพูชา ไม่ใช่โยนภาระทหารไปคุยต่อ บอก “บิ๊กเล็ก-กองทัพ” รับรู้ อย่าถามให้การเมืองทะเลาะทหาร ไม่ตอบเอาภาษีทรัมป์ผูกคอกองทัพหรือไม่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกัมพูชายังปะทะต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ แม้มีข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 ผู้นำไทยและกัมพูชา ว่า อาจมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถสื่อสารได้ทั้งหมด เพราะชายแดนยาว 800 กิโลเมตร เดิมที่เคยคุยกันว่าจะหยุดยิงในเวลา 18:00 น. ได้ขยายไปถึงเที่ยงคืน จึงมีการคุยกันว่าเที่ยงคืนให้มีการสื่อสารตลอดแนว ซึ่งกองทัพไทยค่อนข้างมีวินัย ส่วนของเขาถ้าไม่ใช่ความตั้งใจ ก็เป็นเรื่องทหารไม่มีวินัย ส่วนของไทยทำหน้าที่เต็มที่และถูกต้องแล้ว ซึ่งในอนาคตต้องคุยกันต่อไปว่าลักษณะที่ไม่สามารถทำแบบนี้ได้คืออะไร ที่สำคัญเราได้เลื่อนให้ทั้ง 2 ฝ่าย คือแม่ทัพภาค ได้หยุดยิงชัดเจนมากขึ้นแล้ว
ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ที่เจรจาก็เจรจาว่าจะหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข หมายความว่ามันจบครั้งแรก แต่รายละเอียดต้องมีการพูดคุย ทั้ง GBC RBC และ JBC เพื่อให้ได้ข้อยุติเราได้นำเอา ขอยืนยันว่าการคุยครั้งนี้เราได้นำเอาข้อเสนอของทางกองทัพบกทั้งหมด ใส่ไปในแถลงการณ์พูดคุยทั้งหมด และเป็นที่ยอมรับ
“ผมต้องขออนุญาตเรื่องที่เกิดขึ้น ในการดำเนินการครั้งนี้ ต้องขอบคุณทางกองทัพบก ขอบคุณวีรกรรมทหารหาญของเรา ปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งอย่างดีเยี่ยมโดยวันนี้โดยวันนี้ผมจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เราจะดูแลกำลังพลทั้งหมดที่เกิดเหตุการณ์เป็นพิเศษ ซึ่งจะได้คุยกันต่อ อย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นประสบการณ์ให้ได้เห็นว่า คำถามที่ว่าทหารมีไว้ทำไม ชัดเจนถ้าไม่มีทหารก็จะแย่มากกว่านี้ ผมคิดว่าเวลาพูดถึงเรื่องอย่างนี้ ต้องพูดบนพื้นฐานความเป็นจริง เพราะการปกป้องประเทศมันไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา มันไม่ชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นตรงนั้นตรงนี้ทั้งปี มันเป็นเรื่องของภาวะกำลังทหาร ต้องอยู่ในฐานะความพร้อมที่จะปกปักรักษาประเทศได้ ต้องขอบคุณจริงๆ ทุกแนวรบ ที่ได้พูดคุยกันทหารหาญของเราทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เป็นทหารที่มีวินัยมากๆ ต้องให้กำลังใจทหารหาญของประเทศ ส่วนผู้ที่สูญเสียเราจะดูแลอย่างดี เต็มที่“
นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า การเจรจาระดับแม่ทัพภาค ได้เลื่อนเวลาเป็น 10:00 น. ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนกังวลใจ ครั้งนี้ก็เป็นปฏิบัติการที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าเราเป็นฝ่ายที่ยึดมั่นในข้อตกลง เท่าที่ตนทราบยังมีเหตุปะทะอยู่บางจุด เป็นทหารที่อาจไม่มีวินัย มารบและตอบโต้ แต่เราตอบโต้ในพื้นฐานที่ไม่เกินเลย เท่าที่ได้รับรายงานยิงปืนเล็กมา เราก็ยิงปืนเล็กตอบโต้กลับ ถ้ายิงเครื่องระเบิด เราก็ตอบสนองในขั้นนั้นเท่านั้น ไม่ได้ยกระดับ แต่ขณะนี้ถือว่าสงบ ต้องดูว่า 10 โมงที่เขาพูดคุยกันอย่างไร
ส่วนจากนี้จะมีการคุยระดับผู้นำอีกหรือไม่ หรือให้ระดับแม่ทัพพูดคุยกันเอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า มอบอำนาจชัดเจนให้กองทัพ เพราะอยู่ในส่วนของการปฎิบัติหน้าที่ส่วนหน้า แต่เราประสานงานกัน เมื่อสักครู่รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ก็โทรมา ซึ่งตนจะประสานให้ไปคุยกับกองทัพต่อ
เมื่อถามว่า ก่อนไปเจรจา นายภูมิธรรมได้ให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหยุดยิงต้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจด้วยการปรับกำลังออก รวมถึงเอาอาวุธหนักทั้งหมดออกจากพื้นที่ ขณะที่ ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา บอกว่าถ้าจะหยุดยิง ต้องไม่มีเงื่อนไขเลย เมื่อวานนี้ไปพูดคุยอย่างไรถึงเข้าเงื่อนไขของ ฮุน มาเนต ซึ่งนายภูมิธรรมกล่าวว่า ”อันนี้ท่านเข้าใจผิด สิ่งที่เราพูดว่าการหยุดยิง คือการที่ทำให้กระบวนการดำเนินการยุติลง ไม่ได้แปลว่าทั้งหมดจบแล้ว หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขคือให้ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันว่าจะหยุดยิงเมื่อไหร่ กระบวนการหลังจากนั้นได้กำหนดแล้วว่าให้ไปคุยตามกลไก นั่นคือรายละเอียดที่กองทัพจะไปเจรจาว่าแค่ไหน อย่างไร
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าไม่ได้มีการหยุดยิงอย่างแท้จริง นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันไปตามขั้นตอน แบบนี้จะกลายเป็นว่าเราระหองระแหงกัน ต้องคำนึงถึงว่า ขณะนี้เราให้นานาประเทศ ประชาคมโลกเข้ามาดูแลแล้ว เข้ามาสังเกตการณ์ว่าวันนี้หยุดยิง ถ้าทุกอย่างหยุด มีการเจรจา ซึ่งการหยุดยิงเป็นมาตรฐานที่เราอยากขอให้มีการคุยทั้งหมด ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่กระทบกระเทือนกับประเทศ เพราะเท่าที่เราได้รับได้รับรายงานมาโดยตลอด เรายังยึดมั่นและรักษาอธิปไตยของประเทศได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อ ว่าดูเหมือนฝ่ายการเมืองโยนภาระแลหน้าที่ทุกอย่างไปให้กองทัพในหน้างาน นายภูมิธรรม สวนกลับทันทีว่า
“พูดแบบนี้เหมือนจะให้การเมืองทะเลาะกับฝ่ายทหาร ผมคิดว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้น มีการคุยกันตลอด แม้จะไปเจรจาก็คุยกันว่าแค่ไหน อย่างไร ดังนั้นไม่ใช่การโยน แต่ทางกองทัพอยากใช้เงื่อนไขที่อยู่หน้างานมาคุย เราจึงต้องการให้หน่วยทหารได้ไปคุย ตัดสินใจ ประสานงาน ไม่ใช่การโยนภาระ ถ้ามานั่งพิจารณาตรงนี้โดยที่ในพื้นที่เห็นอะไรที่แตกต่าง มันก็จะเป็นปัญหาอีก ยืนยันว่ามีการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอก
ภาพของกองทัพทั้งหมด ทั้งกระทรวงกลาโหม 4 เหล่าทัพ และรัฐบาล” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า หลักการที่จะไปเจรจาเพื่อให้หยุดยิง ตรงนี้ต้องให้เขาถอนอาวุธออกไป เราต้องไปด้วยกันยื่นเงื่อนไขเจรจา 1,2,3 รับ แต่นี่ท่านไปรับเงื่อนไขเขามา นายภูมิธรรม พยายามจะสะกดอารมณ์ พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า พูดแบบนี้ก็เหมือนกับไม่เข้าใจสิ่งที่ทำและพูดมา
ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า ตนไม่เข้าใจ นายภูมิธรรม จึงบอกว่า ขอให้ฟังนิดนึง เรายืนยันแล้วว่า ทั้งหมดถ้าอยู่ๆไปคุยเงื่อนไข มันไม่จบ ในขณะที่การยิง ก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งทหารและประชาชน
“ดังนั้นเงื่อนไขที่คุยครั้งแรกคือต้องหยุดยิงก่อน ต้องระงับความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นอยากทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมด ไม่ได้สนองความสะใจใคร แต่เราระมัดระวังที่จะยุติความเสียหายต่อชีวิตของพลเมืองที่เกิดขึ้น หลังจากหยุดแล้วเป็นเรื่องเจรจา ถ้าจะเจรจาไม่ได้ ค่อยว่ากันใหม่ ถ้าเริ่มต้นจากการตั้งคำถามแบบนี้ มันไม่หยุดหรอก คนที่ตายคนที่เสียหายคือประชาชนแสนกว่าคน และทหารที่เสียชีวิต ตนอยากใช้สติในการพิจารณา การที่ทำแบบนี้คือการยุติความเสียหายหลายๆอย่างที่จะเป็นเงื่อนไขในการคุยกัน” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของพื้นที่เรียกร้องความเสียหายจากกัมพูชา ในฐานะอาชญากรสงคราม นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนั้นเป็นเงื่อนไข การหยุดยิง คือการยุติไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องคุยกันในระดับทวิภาคี ไม่ได้ต้องการให้ประเทศอื่นเข้ามา แต่ประเทศอื่นจะเป็นผู้สังเกตการณ์ เป็นพยานในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ปัญหาต่อไปคือการคุยกันโดยไม่มีเสียงปืนที่ทำลายไปทุกวัน การคุยกันในขณะที่มีการยิงกัน ไม่มีใครเขาทำได้ จะทำให้ความสูญเสียของประชาชนชายแดนได้รับผลกระทบ ซึ่งจากที่ตนไปเยี่ยมพื้นที่ ประชาชนไม่สบายใจ แม้รัฐบาลจะดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่พักอาศัย แต่เขาก็คิดถึงบ้าน คิดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นถ้ายิงกันต่อไป มันจะมีแต่ซากปรักหักพังเหมือนยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งในหลายเหตุการณ์ก็จบแบบนี้ไปก่อน ส่วนจบแล้วจบเลยหรือไม่ ต้องไปดูกันในรายละเอียด ส่วนการเดินหน้าเอาผิดกัมพูชา รอให้คุยกัน ใครทำอะไรไว้ก็คงต้องรับผล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะคุยอย่างไรเมื่อรัฐบาลไปเจรจา ไม่มีเงื่อนไขอะไรซักอย่าง ท่านจะให้เขาคุยอย่างไร ท่านบอกสิ นายภูมิธรรม ตอบว่า “ผมถือเงื่อนไขกองทัพบกไป 6 ข้อ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คืออะไร นายภูมิธรรม บอกว่า “กองทัพบกทราบ ท่านถามดู”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การถอนอาวุธออกจากพื้นที่ชายแดน ปรับกำลังพล เรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบที่ยิงประชาชน ท่านได้ยื่นเงื่อนไขไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ท่านใจเย็นๆ คิดถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ กองทัพบกได้เสนอในเงื่อนไขที่เรารับได้ และการเจรจากันในที่ประชุม รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมก็อยู่ด้วย ซึ่งที่ประชุมก็ยอมรับเงื่อนไข 6-7 ข้อ ที่กองทัพเสนอมาอยู่ในนั้นหมด
เมื่อถามต่อว่า เป็นเพราะรัฐบาลกดดัน เอาภาษีทรัมป์ไปผูกคอกองทัพ ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ถามกลับว่า “นี่ท่านทำหน้าที่สื่อ ที่จะถามผมเพื่อให้ได้ข้อความ หรือถามเอาประเด็นที่ท่านเชื่อมั่น มากดดันผม ผมพอแล้วครับ ผมไม่คุยด้วย” จากนั้นเดินขึ้นตึกบัญชาการทันที
ขณะที่ผู้สื่อข่าว ยังตะโกนถามต่อว่า ขอให้ท่านมาชี้แจงต่อ ว่าจริงหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องภาษีทรัมป์ ทำให้ท่านตัดสินใจแบบนี้.-315 -สำนักข่าวไทย