“ภูมิธรรม” ขอบคุณทหารปกป้องประเทศ ชง ครม.ดูแลกำลังพลเป็นพิเศษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ขอบคุณทหารทำหน้าที่ดีเยี่ยมปกป้องประเทศ ทำให้เห็นว่าทหารมีไว้ทำไม เสนอ ครม. ดูแลกำลังพลเป็นพิเศษ รับหลังเที่ยงคืนยังมีปะทะบางจุด เหตุทหารเขมรไม่มีวินัย ยืนยันเจรจาหยุดยิง เป็นจุดเริ่มต้นหยุดยิงถาวร รอคุยรายละเอียดต่อตามกลไก โต้เดือดสื่อฯ เจรจาไม่มีเงื่อนไขเข้าทางกัมพูชา ไม่ใช่โยนภาระทหารไปคุยต่อ บอก “บิ๊กเล็ก-กองทัพ” รับรู้ อย่าถามให้การเมืองทะเลาะทหาร ไม่ตอบเอาภาษีทรัมป์ผูกคอกองทัพหรือไม่


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกัมพูชายังปะทะต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ แม้มีข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 ผู้นำไทยและกัมพูชา ว่า อาจมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถสื่อสารได้ทั้งหมด เพราะชายแดนยาว 800 กิโลเมตร เดิมที่เคยคุยกันว่าจะหยุดยิงในเวลา 18:00 น. ได้ขยายไปถึงเที่ยงคืน จึงมีการคุยกันว่าเที่ยงคืนให้มีการสื่อสารตลอดแนว ซึ่งกองทัพไทยค่อนข้างมีวินัย ส่วนของเขาถ้าไม่ใช่ความตั้งใจ ก็เป็นเรื่องทหารไม่มีวินัย ส่วนของไทยทำหน้าที่เต็มที่และถูกต้องแล้ว ซึ่งในอนาคตต้องคุยกันต่อไปว่าลักษณะที่ไม่สามารถทำแบบนี้ได้คืออะไร ที่สำคัญเราได้เลื่อนให้ทั้ง 2 ฝ่าย คือแม่ทัพภาค ได้หยุดยิงชัดเจนมากขึ้นแล้ว

ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ที่เจรจาก็เจรจาว่าจะหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข หมายความว่ามันจบครั้งแรก แต่รายละเอียดต้องมีการพูดคุย ทั้ง GBC RBC และ JBC เพื่อให้ได้ข้อยุติเราได้นำเอา ขอยืนยันว่าการคุยครั้งนี้เราได้นำเอาข้อเสนอของทางกองทัพบกทั้งหมด ใส่ไปในแถลงการณ์พูดคุยทั้งหมด และเป็นที่ยอมรับ


“ผมต้องขออนุญาตเรื่องที่เกิดขึ้น ในการดำเนินการครั้งนี้ ต้องขอบคุณทางกองทัพบก ขอบคุณวีรกรรมทหารหาญของเรา ปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งอย่างดีเยี่ยมโดยวันนี้โดยวันนี้ผมจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม. เราจะดูแลกำลังพลทั้งหมดที่เกิดเหตุการณ์เป็นพิเศษ ซึ่งจะได้คุยกันต่อ อย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นประสบการณ์ให้ได้เห็นว่า คำถามที่ว่าทหารมีไว้ทำไม ชัดเจนถ้าไม่มีทหารก็จะแย่มากกว่านี้ ผมคิดว่าเวลาพูดถึงเรื่องอย่างนี้ ต้องพูดบนพื้นฐานความเป็นจริง เพราะการปกป้องประเทศมันไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา มันไม่ชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นตรงนั้นตรงนี้ทั้งปี มันเป็นเรื่องของภาวะกำลังทหาร ต้องอยู่ในฐานะความพร้อมที่จะปกปักรักษาประเทศได้ ต้องขอบคุณจริงๆ ทุกแนวรบ ที่ได้พูดคุยกันทหารหาญของเราทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เป็นทหารที่มีวินัยมากๆ ต้องให้กำลังใจทหารหาญของประเทศ ส่วนผู้ที่สูญเสียเราจะดูแลอย่างดี เต็มที่“

นายภูมิธรรม ยังย้ำว่า การเจรจาระดับแม่ทัพภาค ได้เลื่อนเวลาเป็น 10:00 น. ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนกังวลใจ ครั้งนี้ก็เป็นปฏิบัติการที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าเราเป็นฝ่ายที่ยึดมั่นในข้อตกลง เท่าที่ตนทราบยังมีเหตุปะทะอยู่บางจุด เป็นทหารที่อาจไม่มีวินัย มารบและตอบโต้ แต่เราตอบโต้ในพื้นฐานที่ไม่เกินเลย เท่าที่ได้รับรายงานยิงปืนเล็กมา เราก็ยิงปืนเล็กตอบโต้กลับ ถ้ายิงเครื่องระเบิด เราก็ตอบสนองในขั้นนั้นเท่านั้น ไม่ได้ยกระดับ แต่ขณะนี้ถือว่าสงบ ต้องดูว่า 10 โมงที่เขาพูดคุยกันอย่างไร

ส่วนจากนี้จะมีการคุยระดับผู้นำอีกหรือไม่ หรือให้ระดับแม่ทัพพูดคุยกันเอง นายภูมิธรรม กล่าวว่า มอบอำนาจชัดเจนให้กองทัพ เพราะอยู่ในส่วนของการปฎิบัติหน้าที่ส่วนหน้า แต่เราประสานงานกัน เมื่อสักครู่รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ก็โทรมา ซึ่งตนจะประสานให้ไปคุยกับกองทัพต่อ


เมื่อถามว่า ก่อนไปเจรจา นายภูมิธรรมได้ให้สัมภาษณ์ว่าก่อนหยุดยิงต้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจด้วยการปรับกำลังออก รวมถึงเอาอาวุธหนักทั้งหมดออกจากพื้นที่ ขณะที่ ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา บอกว่าถ้าจะหยุดยิง ต้องไม่มีเงื่อนไขเลย เมื่อวานนี้ไปพูดคุยอย่างไรถึงเข้าเงื่อนไขของ ฮุน มาเนต ซึ่งนายภูมิธรรมกล่าวว่า ”อันนี้ท่านเข้าใจผิด สิ่งที่เราพูดว่าการหยุดยิง คือการที่ทำให้กระบวนการดำเนินการยุติลง ไม่ได้แปลว่าทั้งหมดจบแล้ว หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขคือให้ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันว่าจะหยุดยิงเมื่อไหร่ กระบวนการหลังจากนั้นได้กำหนดแล้วว่าให้ไปคุยตามกลไก นั่นคือรายละเอียดที่กองทัพจะไปเจรจาว่าแค่ไหน อย่างไร

เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าไม่ได้มีการหยุดยิงอย่างแท้จริง นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันไปตามขั้นตอน แบบนี้จะกลายเป็นว่าเราระหองระแหงกัน ต้องคำนึงถึงว่า ขณะนี้เราให้นานาประเทศ ประชาคมโลกเข้ามาดูแลแล้ว เข้ามาสังเกตการณ์ว่าวันนี้หยุดยิง ถ้าทุกอย่างหยุด มีการเจรจา ซึ่งการหยุดยิงเป็นมาตรฐานที่เราอยากขอให้มีการคุยทั้งหมด ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่กระทบกระเทือนกับประเทศ เพราะเท่าที่เราได้รับได้รับรายงานมาโดยตลอด เรายังยึดมั่นและรักษาอธิปไตยของประเทศได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อ ว่าดูเหมือนฝ่ายการเมืองโยนภาระแลหน้าที่ทุกอย่างไปให้กองทัพในหน้างาน นายภูมิธรรม สวนกลับทันทีว่า

“พูดแบบนี้เหมือนจะให้การเมืองทะเลาะกับฝ่ายทหาร ผมคิดว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้น มีการคุยกันตลอด แม้จะไปเจรจาก็คุยกันว่าแค่ไหน อย่างไร ดังนั้นไม่ใช่การโยน แต่ทางกองทัพอยากใช้เงื่อนไขที่อยู่หน้างานมาคุย เราจึงต้องการให้หน่วยทหารได้ไปคุย ตัดสินใจ ประสานงาน ไม่ใช่การโยนภาระ ถ้ามานั่งพิจารณาตรงนี้โดยที่ในพื้นที่เห็นอะไรที่แตกต่าง มันก็จะเป็นปัญหาอีก ยืนยันว่ามีการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอก
ภาพของกองทัพทั้งหมด ทั้งกระทรวงกลาโหม 4 เหล่าทัพ และรัฐบาล” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า หลักการที่จะไปเจรจาเพื่อให้หยุดยิง ตรงนี้ต้องให้เขาถอนอาวุธออกไป เราต้องไปด้วยกันยื่นเงื่อนไขเจรจา 1,2,3 รับ แต่นี่ท่านไปรับเงื่อนไขเขามา นายภูมิธรรม พยายามจะสะกดอารมณ์ พร้อมตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า พูดแบบนี้ก็เหมือนกับไม่เข้าใจสิ่งที่ทำและพูดมา

ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า ตนไม่เข้าใจ นายภูมิธรรม จึงบอกว่า ขอให้ฟังนิดนึง เรายืนยันแล้วว่า ทั้งหมดถ้าอยู่ๆไปคุยเงื่อนไข มันไม่จบ ในขณะที่การยิง ก็ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งทหารและประชาชน

“ดังนั้นเงื่อนไขที่คุยครั้งแรกคือต้องหยุดยิงก่อน ต้องระงับความเสียหายที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นอยากทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมด ไม่ได้สนองความสะใจใคร แต่เราระมัดระวังที่จะยุติความเสียหายต่อชีวิตของพลเมืองที่เกิดขึ้น หลังจากหยุดแล้วเป็นเรื่องเจรจา ถ้าจะเจรจาไม่ได้ ค่อยว่ากันใหม่ ถ้าเริ่มต้นจากการตั้งคำถามแบบนี้ มันไม่หยุดหรอก คนที่ตายคนที่เสียหายคือประชาชนแสนกว่าคน และทหารที่เสียชีวิต ตนอยากใช้สติในการพิจารณา การที่ทำแบบนี้คือการยุติความเสียหายหลายๆอย่างที่จะเป็นเงื่อนไขในการคุยกัน” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของพื้นที่เรียกร้องความเสียหายจากกัมพูชา ในฐานะอาชญากรสงคราม นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนั้นเป็นเงื่อนไข การหยุดยิง คือการยุติไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องคุยกันในระดับทวิภาคี ไม่ได้ต้องการให้ประเทศอื่นเข้ามา แต่ประเทศอื่นจะเป็นผู้สังเกตการณ์ เป็นพยานในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ปัญหาต่อไปคือการคุยกันโดยไม่มีเสียงปืนที่ทำลายไปทุกวัน การคุยกันในขณะที่มีการยิงกัน ไม่มีใครเขาทำได้ จะทำให้ความสูญเสียของประชาชนชายแดนได้รับผลกระทบ ซึ่งจากที่ตนไปเยี่ยมพื้นที่ ประชาชนไม่สบายใจ แม้รัฐบาลจะดูแลเรื่องอาหารการกิน ที่พักอาศัย แต่เขาก็คิดถึงบ้าน คิดถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นถ้ายิงกันต่อไป มันจะมีแต่ซากปรักหักพังเหมือนยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งในหลายเหตุการณ์ก็จบแบบนี้ไปก่อน ส่วนจบแล้วจบเลยหรือไม่ ต้องไปดูกันในรายละเอียด ส่วนการเดินหน้าเอาผิดกัมพูชา รอให้คุยกัน ใครทำอะไรไว้ก็คงต้องรับผล

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะคุยอย่างไรเมื่อรัฐบาลไปเจรจา ไม่มีเงื่อนไขอะไรซักอย่าง ท่านจะให้เขาคุยอย่างไร ท่านบอกสิ นายภูมิธรรม ตอบว่า “ผมถือเงื่อนไขกองทัพบกไป 6 ข้อ”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า คืออะไร นายภูมิธรรม บอกว่า “กองทัพบกทราบ ท่านถามดู”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การถอนอาวุธออกจากพื้นที่ชายแดน ปรับกำลังพล เรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบที่ยิงประชาชน ท่านได้ยื่นเงื่อนไขไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ท่านใจเย็นๆ คิดถึงผลประโยชน์ประเทศชาติ กองทัพบกได้เสนอในเงื่อนไขที่เรารับได้ และการเจรจากันในที่ประชุม รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมก็อยู่ด้วย ซึ่งที่ประชุมก็ยอมรับเงื่อนไข 6-7 ข้อ ที่กองทัพเสนอมาอยู่ในนั้นหมด

เมื่อถามต่อว่า เป็นเพราะรัฐบาลกดดัน เอาภาษีทรัมป์ไปผูกคอกองทัพ ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ถามกลับว่า “นี่ท่านทำหน้าที่สื่อ ที่จะถามผมเพื่อให้ได้ข้อความ หรือถามเอาประเด็นที่ท่านเชื่อมั่น มากดดันผม ผมพอแล้วครับ ผมไม่คุยด้วย” จากนั้นเดินขึ้นตึกบัญชาการทันที

ขณะที่ผู้สื่อข่าว ยังตะโกนถามต่อว่า ขอให้ท่านมาชี้แจงต่อ ว่าจริงหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องภาษีทรัมป์ ทำให้ท่านตัดสินใจแบบนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย