กองทัพภาค 2 แจ้ง ปชช.งดกลับบ้าน-รอประกาศทางการ

29 ก.ค. – บรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี รวมถึงชายแดนสุรินทร์ ศรีสะเกษ หลังเที่ยงคืน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในพื้นที่เงียบสงบ ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 โพสต์แจ้งประชาชนขอให้งดเดินทางกลับภูมิลำเนาพื้นที่ใกล้ชายแดน จนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ


กองทัพขอผู้อพยพงดกลับบ้าน รอประกาศทางการ
ช่วง 1 ทุ่มกว่า กองทัพภาคที่ 2 โพสต์แจ้งประชาชนขอให้งดเดินทางกลับภูมิลำเนา พื้นที่ใกล้ชายแดน จนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ

เพจกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความหลังไทยและกัมพูชา บรรลุข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ในการเจรจาที่มาเลเซีย โดยระบุว่าขอให้ประชาชนงดเดินทางกลับภูมิลำเนาพื้นที่ใกล้ชายแดน จนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ ก่อนที่เพจกองทัพบก ทันกระแส จะโพสต์ข้อความเมื่อ 00.37 น. ยืนยันไทยทุกพื้นที่หยุดยิง


แต่ก่อนหน้าเที่ยงคืน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น. หลังทหารไทย-กัมพูชา ปะทะเดือด 10 นาทีสุดท้าย ใช้อาวุธหนักโจมตี F-16 ทิ้งบอมบ์

รายงานสถานการณ์ปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา (เท่าที่ได้รับรายงาน) วันที่ 28 ก.ค. 68 ณ เวลา 24.00 น.
จ.บุรีรัมย์

  • พื้นที่ด้านช่องสายตะกู : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ
    จ.สุรินทร์
    -พื้นที่ปราสาทตาเมือน : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ
    -พื้นที่ปราสาทตาควาย : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ
    -พื้นที่ช่องจอม : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ
    จ.ศรีสะเกษ
    -พื้นที่เขาพระวิหาร (ภูมะเขือ ห้วยตามาเรีย) : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ
    -พื้นที่ปราสาทโดนตวล : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ
    จ.อุบลราชธานี
    -พื้นที่ช่องอานม้า : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ
    -พื้นที่ช่องบก : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย-บาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงาน 10 นาทีสุดท้าย ทหารไทยกับทหารกัมพูชาปะทะอย่างดุเดือด ใช้อาวุธหนักโจมตี เครื่องบินขับไล่ F-16 บินปฏิบัติการทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา เช่น พื้นที่ภูผี ประสาทตาเมือนธม ประสาทตาควาย


จ.สุรินทร์ ยืนยันไทยยึดปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเที่ยงคืนเป็นต้นมา ซึ่งข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขมีผลบังคับ ชายแดน จ.สุรินทร์ บริเวณปราสาทตาควาย ต.บักได และปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก ทหาร 2 ฝ่ายปะทะกันอย่างหนัก ทั้งพื้นราบ และอาวุธหนักทางอากาศ โดยทหารและ ตชด.ไทย สามารถยึดพื้นที่ครอบครองทั้ง 2 ปราสาทเอาไว้ได้

ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับคำยืนยันจากทั้งนายวีรวัติ กำนัน ต.บักได และนายภูมิพัฒน์ กำนัน ต.ตาเมียง สอดคล้องข่าวกองทัพบกว่าพื้นที่ 2 ปราสาท รวมทั้งช่องกร่าง ที่อยู่ระหว่าง 2 ปราสาท เสียงปะทะได้เงียบลง

ระยะต่อไปต้องลุ้นว่าเวลา 07.00 น. การพูดคุยระหว่าง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กับทหารกัมพูชา จะออกมาในรูปแบบใด จะปรับกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ประชิดชายแดนอย่างไร นำมาสู่การหยุดยิงถาวร เพื่อนำสันติภาพกลับมาสู่ชายแดนได้หรือไม่

อุบลราชธานี เสียงปืนสงบหลังเที่ยงคืน
บรรยากาศชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังเที่ยงคืนทั้ง 2 ฝ่ายต้องหยุดยิงพร้อมกันแบบไร้เงื่อนไข เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกอย่างในพื้นที่เงียบสงบทั้ง 2 ฝั่ง

แต่ก่อนจะถึงเวลาตามข้อตกลง ในพื้นที่มีการปะทะกันอย่างดุเดือด เสียงปืนใหญ่และจรวด BM-21 ถูงยิงสวนกันอย่างหนัก อีกทั้งยังมีโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้ามาบริเวณจุดที่ ชรบ.หมู่บ้าน และนักข่าวอยู่ จึงจำเป็นต้องปิดไฟและหลบเข้าที่กำบังทันที

สุรินทร์ เปิดแนวปะทะใหม่ ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย
ย้อนไปเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) ที่ จ.สุรินทร์ ยังคงมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง โดยบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก เริ่มยิงปะทะกันตั้งแต่เวลาตี 3 จนกระทั่งตลอดทั้งวัน ขณะที่บริเวณช่องจอม มีรายงานว่าทหารกัมพูชาขนรถถัง อาวุธยุทโธปกรณ์ มาประชิดชายแดนด้าน อ.กาบเชิง หวังจะบุก แต่ทหารไทยได้ยิงปืนใหญ่สกัดต่อเนื่องนับสิบนัด ก่อนที่จะเงียบไปถึงช่วงเช้าวานนี้ และกลับไปยิงสนั่นที่ชายแดนด้าน อ.พนมงดงรัก คาดว่าทหารกัมพูชาจะพยายามยึดปราสาทตาควายและตาเมือนธมให้ได้

ขณะที่ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ายังไม่มีการประกาศให้ จ.สุรินทร์ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติสงคราม หนังสือที่ออกมาเป็นหนังสือขอหารือแนวทางประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดลองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และเป็นหนังสือถึงนายอำเภอทุกอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ เรื่องการปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี กัมพูชายิงจรวด BM-21 ตกพื้นที่สวนยาง
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากลูกจรวด BM-21 ของกัมพูชา ในพื้นที่ อ.น้ำยืน พบกระสุนตกอยู่บริเวณสวนปาล์มของชาวบ้านจำนวน 8 ลูก ทำให้วัวของชาวบ้านที่เลี้ยงไว้ได้รับบาดเจ็บ 1 ตัว และบริเวณต้นไม้ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดหลายจุด

จากการสอบถามนายพวย อายุ 64 ปี เจ้าของวัว เปิดเผยว่า ช่วงเช้าตนได้นำวัวไปผูกให้กินหญ้าอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้นช่วงประมาณ 11 โมง มีเสียงระเบิดดังขึ้นจึงรีบวิ่งเข้าไปดู พบว่าลูกวัวตัวเมียที่ตนเองเลี้ยงไว้อายุ 2 ปี มีบาดแผลบริเวณใต้ท้องจนเห็นลำไส้ห้อยออกมา แต่ยังไม่ตาย จึงรีบช่วยกันดึงเข้าไว้ในที่ปลอดภัย และรีบหนีออกมาจากจุดเกิดเหตุ ก่อนรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ

กองทัพภาค 2 สรุปการสู้รบ-พบแฮกเกอร์เจาะระบบ
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ฝ่ายกัมพูชาระดมยิง BM-21 หลายแนวรบ โดยเฉพาะเนิน 677, ภูผี, ผามออีแดง-พระวิหาร และภูมะเขือ นอกจากนั้นยังพบความเคลื่อนไหวระบบขีปนาวุธ PHL-03 ในพื้นที่สนามบินสำโรง จ.อุดรมีชัย ฝ่ายไทยตอบโต้ตามระดับภัยคุกคามอย่างเท่าเทียม จนถึงการใช้อาวุธต่อเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่ช่องบก, ช่องอานม้า, ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม

นอกจากนี้เกิดภัยคุกคามทางไซเบอร์ พบกลุ่มแฮกเกอร์ชาวกัมพูชาเจาะระบบของส่วนราชการต่างๆ และยังตรวจพบทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่แนวหน้า

ขณะที่ฝ่ายไทยเข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อวางกำลังการปะทะสำคัญในพื้นที่ช่องอานม้า, ภูผี และภูมะเขือ ปะทะหนัก ฝ่ายไทย-ฝ่ายกัมพูชา ยิง ป., ค. ตอบโต้ตลอดคืน บาดเจ็บหลายราย

พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย ฝ่ายกัมพูชายังคงความมุ่งมั่นในการยึดรักษาและพยายามเข้าควบคุมพื้นที่ พบการรวมกำลังและเพิ่มเติมกำลังขึ้นมาจากพื้นที่ตอนในของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อประชาชน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ที่ บ.สายโท 8 ใต้, บ.สายโท 5 ใต้, บ.สายโท 4 ใต้ ต.จันทบเพชร และ บ.สายโท 1 เหนือ ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ถูกกระสุนปืนใหญ่และ BM-21 ตก 28 ลูก ที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย และ บ.หนองเม็ก, บ.ภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

นอกจากนั้นยังปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชามีการยิงพลาดใส่ฝ่ายเดียวกัน ในพื้นที่ช่องอานม้าและผามออีแดง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาหลายหน่วย ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการติดต่อสื่อสาร

เรื่องอื่นๆ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำส่วนราชการในพื้นที่ ติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนจากช่องทางประชาสัมพันธ์ที่เป็นทางการ หรือส่วนราชการในพื้นที่ และขอความร่วมมือไม่แชร์ข้อมูลจากแหล่งที่มาข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบยืนยันจากทางการ และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีกระสุนปืนใหญ่หรือวัตถุระเบิดตกค้าง อย่าเข้าใกล้หรือเก็บไป เพราะเป็นอันตราย และเป็นหลักฐานสำคัญในกระบวนการยุติธรรมระดับนานาชาติ

สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา วันนี้ กองทัพบกได้รับรายงานว่ามีกำลังพลเสียชีวิตจากการสู้รบในพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ 1 นาย คือ สิบเอก อัมรินทร์ ผาสุข สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23

ขณะที่ 20.00 น. มีรายงานว่ากำลังพลเสียชีวิตจากการสู้รบอีก 2 นาย คือ พลทหาร สิรวิชญ์ ภิญโญสุข สังกัด กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จ่าสิบเอก อโณทัย ป้องแก้ว สังกัดกองพันปฏิบัติการพิเศษ

กองทัพบกขอสดุดีแด่กำลังพลผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ และจะดูแลสิทธิและสวัสดิการแก่ครอบครัวและทายาทของทหารกล้าเหล่านี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแห่งความเสียสละ

ฮุน เซน โพสต์ภาพคู่ทรัมป์ และอันวาร์ ขอบคุณเป็นตัวกลางเจรจาหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชา

“ฮุน เซน” โพสต์ขอบคุณ “ทรัมป์-อันวาร์” ตัวกลางเจรจา
เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. (29 ก.ค.) สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ภาพที่ถ่ายร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประธานอาเซียน พร้อมข้อความ ระบุ “ความสำเร็จจากความริเริ่มอันน่าทึ่งของ ฯพณฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ช่วยชีวิตประชาชนหลายหมื่นคนจากสงครามระหว่างกัมพูชา-ไทย

อันดับแรก ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณต่อ ฯพณฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับวิสัยทัศน์อันกว้างไกลในการริเริ่มสร้างข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพระหว่างประเทศกัมพูชาและประเทศไทย ความริเริ่มครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยรักษาชีวิตผู้คนจำนวนมากในทั้งสองประเทศ

ข้าพเจ้าขอขอบคุณ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ซึ่งมีบทบาทในการจัดสถานที่ประชุมและอำนวยความสะดวกต่อการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในครั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณต่อมิตรสหายชาวจีนสำหรับการสนับสนุน ตลอดจนประเทศมิตรทุกประเทศที่ให้การรับรองข้อตกลงหยุดยิงนี้ และข้าพเจ้าขอขอบคุณประชาชนของทั้งประเทศกัมพูชาและประเทศไทย รวมถึงกองทัพของทั้งสองประเทศ สำหรับการสนับสนุนอย่างมั่นคงต่อกระบวนการสันติภาพนี้”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]

ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาเป็นของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด ขัดอนุสัญญาออตตาวา เตรียมยื่นหลักฐานศุกร์นี้ ย้ำพื้นที่บ้านหนองจาน​ จ.สระแก้ว​ เป็นอธิปไตยไทย​ 100% หลังปี​ 2518 ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามฆ่าล้าง​เผ่าพันธุ์​ แต่ไม่ยอมกลับ​ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 20 สิงหาคม​ 2568 พลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าวว่า​ สถานการณ์ชายแดนทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ ขณะที่การตรวจพบโทรศัพท์มือถือของฝ่ายกัมพูชา โดยกองทัพเรือ ได้พบหลักฐานสำคัญ​ ยืนยันว่าทหารกัมพูชา​ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 บริเวณภูมะเขือ สืบเนื่องมาจากวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม​ กองทัพเรือ ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ระเบิดและกวาดล้างในพื้นที่ภูมะเขือ​ จังหวัดศรีสะเกษ ของกองร้อยทหารราบที่ 132 กองพันที่ 13 ฐานเหนือเมฆ​ ได้ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว […]

ก.พาณิชย์ ปรับร้าน “เจ๊ไฝ” 2 พันบาท ไม่ติดป้ายแสดงราคาชัดเจน

กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – ภาครัฐร่วมมือลงพื้นที่ตรวจสอบร้าน “เจ๊ไฝ” หลังถูกร้องเรียน ขายไข่เจียวปูราคาสูงกว่าป้ายกำกับ โดยถูกกรมการค้าภายในสั่งปรับ 2,000 บาท เพราะไม่มีป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน พร้อมตรวจสอบต้นทุนวัตถุดิบเพื่อวิเคราะห์ราคาขาย วันนี้ (20 ส.ค.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอบร้านไข่เจียวปูชื้อดัง “เจ๊ไฝ” ย่านประตูผี เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า เมนูไข่เจียวปูที่ระบุราคาไว้ 1,500 บาท แต่ลูกค้าถูกเรียกเก็บเงินสูงถึง 4,000 บาท นายพิสิฐ อภิชนาพงศ์ นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ กรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการร่วมตรวจสอบร้านเจ๊ไฝ พบว่าไม่มีป้ายแสดงราคาไข่เจียวปู 4,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบ จึงถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในมาตรา 28 ที่ระบุเอาไว้ว่า ทางร้านต้องติดป้ายราคาสินค้า และบริการ ให้ชัดเจนหากมีการฝ่าฝืน จะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท […]

ในหลวง-พระราชินี เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ในหลวง-พระราชินี เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน ที่ปฏิบัติงานชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งรายบุคคลและหน่วย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ คาดต้นเดือนกันยายนเรียบร้อย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ก่อนอื่นขอพูดถึงเรื่องที่เป็นขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพราน ที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในห้วงเวลาที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ทรงติดตามสถานการณ์มาตลอด โดยในกรณีที่เกิดความสูญเสีย ได้ทรงพระราชทานความช่วยเหลือ ล่าสุด รองราชเลขานุการในพระองค์ ได้ติดต่อมายังกระทรวงกลาโหมและมาถึงตนว่า พระองค์ท่านทรงห่วงใยเรื่องการพระราชทานเหรียญกล้าหาญ ว่าได้ดำเนินการอย่างไร เรื่องนี้กระทรวงกลาโหมได้เร่งรัดที่จะขอพระราชทานเหรียญให้กับทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพราน ที่ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยหลักเกณฑ์จะคล้ายกันกับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการขอเหรียญกล้าหาญในครั้งนี้ กำลังพลเข้าปฎิบัติการเป็นจำนวนมาก กระทรวงกลาโหมจะรวบรวมเสนอไปในคราวเดียวกันเพื่อขอพระราชทาน ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยกำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ เมื่อถามว่าการขอพระราชทานเหรียญกล้าหาญ จะเป็นเหรียญในลักษณะใดบ้าง พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า เหรียญจะไปถึงขั้นรามาธิบดี และเหรียญทุกระดับที่สามารถให้ได้ตามความเหมาะสม มีพฤติการณ์ที่สอดคล้อง แต่เนื่องจากมีกำลังพลจำนวนมาก ตนได้ให้แนวทางไปว่า ให้ขอไป 2 ลักษณะ […]