กัวลาลัมเปอร์ 11 ก.ค.- จีนเสนอข้อเสนอแนะ 4 ประการ ในการสนับสนุนให้กลุ่มอาเซียนบวกสามยกระดับการบูรณาการในภูมิภาค
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้กล่าวในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนบวกสาม ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเมื่อวานนี้ว่า ยิ่งสถานการณ์ระหว่างประเทศมีความสลับซับซ้อนมากเท่าใด กลุ่มประเทศอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ หรืออาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three) ยิ่งจำเป็นต้องขจัดการแทรกแซงและเดินหน้ายกระดับกระบวนการบูรณาการระดับภูมิภาค
นายหวังกล่าวว่า การมุ่งเน้นพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือเป็นแนวโน้มและกระแสหลักของความร่วมมือในเอเชียตะวันออกในปัจจุบัน แม้นานาประเทศจะยังเผชิญหลายความท้าทาย เช่น ผลกระทบจากเอกภาพนิยมหรือการกระทำฝ่ายเดียวและการกีดกันทางการค้า รวมถึงการใช้ภาษีในทางมิชอบโดยชาติมหาอำนาจบางประเทศ ทำให้ยิ่งมีความจำเป็นต้องเสริมสร้างแนวโน้มความร่วมมือและเพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นายหวังได้เสนอข้อเสนอแนะ 4 ประการสำหรับความร่วมมือในระยะต่อไปประกอบด้วย
ประการแรก สร้างเอเชียตะวันออกแบบบูรณาการ ด้วยการยืนหยัดคัดค้านการ “สร้างกำแพงและอุปสรรค” จีนยินดีทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อดำเนินตามแถลงการณ์ของคณะผู้นำ และเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในด้านห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทาน
ประการที่สอง สร้างเอเชียตะวันออกที่เข้มแข็งและยืดหยุ่น ด้วยการวางแผนทิศทางในอนาคตของความร่วมมือด้านการคลังและการเงินในภูมิภาค จีนยินดีทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อสำรวจนวัตกรรมเชิงกลไก และยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคบนพื้นฐานของการเสริมสร้างกลไกสำรองข้าวฉุกเฉินอาเซียนบวกสามให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ประการที่สาม สร้างเอเชียตะวันออกที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและพลวัต ด้วยการคว้าโอกาสที่มาพร้อมการปฏิวัติทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมรอบใหม่ และขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านและการพัฒนาด้วยนวัตกรรม
ประการที่สี่ สร้างเอเชียตะวันออกที่เชื่อมโยงทางวัฒนธรรม ด้วยการดำเนินโครงการ “แคมปัส เอเชีย ” (CAMPUS Asia) ต่อไป และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและการฝึกอบรมผู้มีความสามารถในกลุ่มประเทศอาเซียนบวกสาม
รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเน้นย้ำว่า ไม่ว่าสภาพแวดล้อมภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนพร้อมใช้การพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงของตนเองช่วยเสริมแรงขับเคลื่อนใหม่ให้กับการพัฒนาร่วมกันในภูมิภาค เปิดโอกาสใหม่ๆ และร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับเอเชียตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย