บางจากฯ ร่วมบรรเทาเหตุ โรงงานไฟไหม้”กิ่งแก้ว”


กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – บางจากฯ ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกู้ภัย โรงงานไฟไหม้ย่านกิ่งแก้ว ส่วนโรงกลั่นน้ำมันบางจากฯ แม้อยู่ในชุมชน แต่ยืนยันปลอดภัย ดำเนินการตามมาตรฐานสากล


จากเหตุการณ์ระเบิดและไฟไหม้บริเวณโกดังเก็บสารเคมีภายในโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่เป็นวงกว้าง บริษัทบางจากฯ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการในทันทีตั้งแต่เมื่อวานนี้ต่อเนื่องตลอดคืน จนสามารถควบคุมเพลิงเบื้องต้นได้ในเวลาประมาณ 4 นาฬิกาของวันนี้
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบางจากฯ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการดับเพลิงและระงับเหตุฉุกเฉิน 20 คน พร้อมรถดับเพลิง 1 คัน และรถบรรจุโฟมดับเพลิง 23,000 ลิตร 1 คันจากโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เข้าช่วยเหลือในพื้นที่ทันที โดยได้ร่วมวางแผนระงับเหตุและร่วมปฏิบัติการดับเพลิงกับเจ้าหน้าที่ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและอาสาสมัครในพื้นที่ตลอดทั้งคืนจนถึงเวลาประมาณ 4 นาฬิกา ของวันนี้จึงสามารถควบคุมเพลิงเบื้องต้นได้ พร้อมทั้งสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มให้กับเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยด้วยจำนวนหนึ่ง


อย่างไรก็ดี จากการที่ยังมีการปะทุอยู่เป็นระยะๆ ในพื้นที่ ทำให้ภารกิจนี้ยังไม่สิ้นสุดลงโดยสิ้นเชิง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกรมควบคุมมลพิษได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการดับเพลิงของบางจากฯ ร่วมให้คำแนะนำเรื่องการควบคุมพื้นที่และการป้องกันการปะทุด้วย



“โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ดำเนินการตามมาตรฐานสากล เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับสูง สุดและมีการฝึกซ้อมแผนระงับเหตุฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอกว่า 130 ครั้งต่อปี เพื่อให้พนักงานของเรามีความเชี่ยว ชาญ รวมถึงมีการสื่อสารและดูแลชุมชนรอบด้านอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด การสนับสนุนปฏิบัติการครั้งนี้อย่างเต็มที่เป็นการตอกย้ำถึงมาตรฐานของบางจากฯ ในการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือสังคม ขอขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้อง และขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และผู้เกี่ยวข้องทุกคนสามารถควบคุมเพลิงได้รวดเร็วที่สุดด้วยความปลอดภัยครับ” นายชัยวัฒน์กล่าว . – สำนักข่าไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ