กทม. 9 เม.ย. – ปตท. ปรับประชุมผู้ถือหุ้นยุค new normal ใช้ VDO Conference พร้อมปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย และปิด สนญ.ปตท. ตั้งแต่ 9-25 เม.ย. หลังพบผู้บริหารระดับรองฯ 1 ราย ติดโควิด-19
วันนี้ (9 เมษายน 2564) นายวรพงษ์ นาคฉัตรีย์ ผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและเฝ้าระวังกรณีโรคอุบัติใหม่ COVID-19 (ศูนย์พลังใจ) บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยถึงกรณีผู้บริหาร ปตท. ระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ 1 ราย ที่ปฏิบัติงานที่ชั้น 22 อาคารสำนักงานใหญ่ ปตท.ถนนวิภาวดีรังสิต ได้รับการยืนยันผลการตรวจจากแพทย์เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากได้เข้าประชุมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมกับผู้บริหารของ ส.อ.ท. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ซึ่งทราบต่อมาภายหลังเมื่อวันที่ 5 เมษายน ว่าผู้บริหารของ ส.อ.ท. ติดเชื้อโควิด-19 ผู้บริหารของ ปตท. ท่านนี้จึงได้รีบเข้าตรวจและทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19
ปตท. ตระหนักถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นสำคัญ จึงให้ผู้บริหารและพนักงานทั้งหมดที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารรายดังกล่าว กักตัวและสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน (Self-quarantine) โดยศูนย์พลังใจ ปตท. จะติดตามรายงานสุขภาพอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ได้สั่งให้พนักงานทุกคนที่ปฏิบัติงาน ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ทำงานที่บ้าน (Work from Home) จนถึงวันที่ 25 เมษายน 2564 นอกจากนี้ ปตท. ยังได้ดำเนินการฆ่าเชื้อโรคอาคารสำนักงานตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการเข้ามาสอบสวนโรคตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของพนักงานและชุมชนโดยรอบ
สำหรับการจัดประชุมผู้ถือหุ้น ปตท. ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ปตท.ห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ จึงได้เน้นดำเนินการประชุมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานครกำหนดอย่างเคร่งครัด และได้ปรับเพิ่มใช้การประชุม Virtual Conference เพื่อให้กรรมการและผู้บริหารที่ต้องกักตัวสังเกตอาการ ยังคงร่วมประชุมผู้ถือหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ถือหุ้นสามารถลงทะเบียน ติดตามการประชุม ได้ที่ https://pttagm2021.com/login/
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า บริษัทในกลุ่ม ปตท.ทั้งหมด ทั้งที่ทำงานในอาคาร ปตท. อาคารเอนโก้ ได้ประกาศทำงานที่บ้านเกือบ 100% โดยบางบริษัท ประกาศไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. ทำให้บรรยากาศเงียบเหงา แม่ค้าพ่อค้าที่ขายบริเวณหลังอาคารนี้ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าขายไม่ได้ และคงจะประสบปัญหารขาดสภาพคล่องระลอกใหม่อีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย