“อนุทิน” วอนหน่วยงานมั่นคงให้คำตอบ ตัดไฟชายแดน

กทม. 29 ม.ค.-“อนุทิน” ชี้จะตัดไฟชายแดน ขึ้นอยู่กับคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคง ไม่ใช่มหาดไทยจะทำเองได้ ลั่น “ถ้ากดหยุดได้ กดหยุดไปแล้ว” วอนหน่วยงานความมั่นคงให้คำตอบ หากสั่งให้หยุด พร้อมตัดทันที ไม่ทราบ ผช.รมต.ความมั่นคงจีน ลงพื้นที่แม่สอด โยนเป็นหน้าที่ กต. ย้ำให้ความสำคัญปัญหาคอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แถลงข่าวชี้แจงการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับประเทศเมียนมาว่า หากหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า การจำหน่ายไฟฟ้าไปให้เป็นภัยต่อความมั่นคงนั้น ก็พร้อมตัดไฟทันที โดยระบุว่า ตามที่ตนเคยบอกว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขายไฟฟ้าตามคำรับรอง และตามข้อสั่งการของหน่วยงานความมั่นคง


นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เราไม่รู้ว่าหน่วยงานความมั่นคงหรือกระทรวงการต่างประเทศไปตกลงอะไรกับประเทศเพื่อนบ้านบ้าง หากเขายืนยันให้ขาย เราก็ยินดีที่จะขาย เพราะมีคำว่ามนุษยธรรมอยู่ แต่หากมีการแจ้งให้ตัดไฟฟ้า เราก็พร้อมตัดวินาทีนี้เลย

ส่วนจะพิจารณาอย่างไรว่าการขายไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านเป็นปัญหาความมั่นคงนั้น นายอนุทิน ระบุว่า หน่วยงานความมั่นคงเป็นผู้แจ้งให้เราขาย ฉะนั้นหน่วยงานความมั่นคงก็จะต้องแจ้งให้เราหยุดขาย ไม่ใช่ให้กระทรวงมหาดไทยไปพิจารณากันเอง เพราะเราทำตามใบสั่ง


ส่วนที่ กฟภ. เปิดเผยว่า จะมีการประชุมกับหน่วยงานความมั่นคงในวันที่ 4-6 ก.พ.นี้ กระทรวงมหาดไทยจะร่วมประชุมด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ออกจดหมายเร่งรัดไปหลายครั้งแล้ว เพื่อขอตอบว่าจะหยุดขายไฟฟ้าให้ประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีหนังสือลายลักษณ์อักษรตอบกลับมาเลย ซึ่งเราจะไปหยุดแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้

“กฟภ. เป็นผู้จำหน่ายตามข้อสั่งการ เมื่อคนขายสั่งให้เราหยุดขาย เราก็หยุด จบแค่นั้น“ นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า หากมีข้อร้องเรียนว่าไฟฟ้าที่เราจ่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ถูกนำไปใช้ในการกระทำที่ผิดกฎหมาย และทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเราก็แจ้งเขาไปแล้ว ฉะนั้นจึงขอให้หน่วยงานความมั่นคงไปสอบถาม เพราะเป็นผู้ประสานงาน และหน่วยงานความมั่นคงประเมินแล้วว่ามีการนำไฟฟ้าไปใช้อย่างผิดกฎหมาย และเพื่อความเดือดร้อนของคนไทย


“แจ้งปุ๊บเราหยุดเลย มันหยุดง่ายมากนะ กดปุ่มปุ๊ปก็หยุดเลย เราพร้อมอยู่แล้ว แต่ต้องสั่งมา” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่วันนี้มีนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปดูพื้นที่ที่เป็นแหล่งของสแกมเมอร์ และอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับไม่มีผู้แทนจากฝั่งไทยไปร่วมบงพื้นที่ด้วย นายอนุทิน ตอบว่า ตนไม่ทราบ เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเรามีหน้าที่ดูแลกิจการความมั่นคงภายในประเทศ

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ที่มีหลายคนมองว่า การไม่ไปร่วมลงพื้นที่ด้วยนั้น ถือว่ารัฐบาลไทยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว นายอนุทิน ยืนยันว่า เราให้ความสำคัญ ซึ่งอย่างที่ตนพูดไปว่า หากมีการการจ่ายไฟฟ้าไปให้สแกมเมอร์หรือผลิตยาเสพติดจริงจากไทย หน่วยงานความมั่นคงที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ก็ควรแจ้งมายังกระทรวงมหาดไทยทันที แต่หากแจ้งมาแล้ว และกระทรวงมหาดไทยยังดึงอยู่ ความผิดก็จะตกมาที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว

“ถ้ามีหนังสือมาฉบับเดียวว่าขอให้หยุด เราหยุดเลยนะ เพราะผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรที่จะหยุด จริงๆ ถ้าผมกดหยุดได้ ผมก็กดหยุดไปแล้ว แต่พอจะกดหยุดก็บอกว่ามันมีโรงเรียน มันมีโรงพยาบาล มันมีหมู่บ้าน มันมีสถสยรับเลี้ยงเด็ก จิปาถะมากมายในหมู่บ้าน ซึ่งต้องใช้หลักมนุษยธรรมอยู่ เพราะงั้นคนที่ไปเจรจาก็ขอให้สั่งมา“

นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ต้องย้ำว่า เราไม่ได้ขายไฟฟ้าเอง เราขายไฟฟ้าตามคำแนะนำของทั้ง 4-5 หน่วยงาน ไม่ใช่เพียงหน่วยงานเดียว และเมื่อยืนยันว่าให้เราขายได้ เราก็ขาย “อย่ามาบอกว่ากระทรวงมหาดไทยไม่ทำอะไร”. -​319​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]