FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง

กรุงเทพฯ 2 เม.ย. – FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง พร้อมปรับเป้า SET Index ปีนี้ที่ 1,629 จุด


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนมีนาคม 2564 พบว่า “ดัชนีฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 145.55 ปรับตัวลดลง 4.4% จากเดือนก่อน ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ นักลงทุนคาดหวังการคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 จากการกระจายวัคซีนเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด  รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ระบาดของ  Covid-19 ที่ยังระบาดในหลายประเทศ รองลงมาคือการท่องเที่ยว และสถานการณ์การเมืองในประเทศ

 ทั้งนี้ นักลงทุนสนใจลงทุนในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD) มากที่สุด รองลงมาคือหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETRO) ขณะที่นักลงทุนเห็นว่าหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ไม่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด  รองลงมาคือหมวดแฟชั่น (FASHION) และหมวดการท่องเที่ยวและสันทนาการ (TOURISM) 


สำหรับในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2564 SET index ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกด้านความคืบหน้าของการทยอยฉีดวัคซีนในประเทศ โดยในช่วงกลางเดือนมีปรับตัวลงบ้างเล็กน้อย จากอัตราราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ช่วงครึ่งเดือนหลังดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากข่าวดีในประเทศ อาทิ การออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมเพิ่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (มาตรการฟื้นฟูฯ) ของธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังวงเงินรวม 350,000 ล้านบาท และการออกแนวทางการผ่อนปรนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม SET Index ปิดที่ 1,587.21 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.04% จากเดือนก่อนหน้า

ด้านปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ขนาด 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สรอ. ซึ่งจะเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเป็นกำลังขับเคลื่อนสำคัญของการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก แต่อาจส่งผลต่อความกังวลของนักลงทุนจากการคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนผ่านอัตรา Bond Yield ที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งในสหรัฐฯ และในหลายประเทศทั่วโลก  นอกจากนี้ การแข่งขันทางการค้าและเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบจากปัญหาการเมืองในเมียนมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ในส่วนของปัจจัยในประเทศ ได้แก่ อัตราเร่งในการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ซึ่งหากล่าช้าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย การบริหารจัดการของภาครัฐในการควบคุมพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ Covid-19 จากการตรวจค้นหาเชิงรุก ผลของการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในกลุ่มจังหวัดนำร่อง และสถานการณ์การเมืองในประเทศ

อย่างไรก็ดี มองตลาดหุ้นไทยมีทิศทางที่ดีและไปต่อได้หลังจากวันนี้ SET Index ขยับทะลุ 1,600 จุด พร้อมปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปีนี้ไว้ที่1,629 จุด ด้านทิศทางเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติจะเริ่มทยอยกลับมาเป็นบวกใน Q2/2564 . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เปิดวินาทีระเบิดรถกระเช้าเทศบาลรือเสาะ

เปิดนาทีระเบิดรถกระเช้าที่จอดอยู่ในที่จอดรถของเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงเที่ยงวานนี้ (6 ก.พ.) จนพังเสียหาย

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด