FETCO เตรียมหารือรัฐบาลต่ออายุ SSF 

กรุงเทพฯ  8 พ.ย. – FETCO  เตรียมหารือรัฐบาลต่ออายุ-ปรับเกณฑ์ SSF กลางเดือน พ.ย.นี้  ด้าน  ตลท. เผยไทยยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการ Short Sell แบบเกาหลี  ขณะที่ IAA  ประเมินเม็ดเงินเริ่มทยอยไหลเข้ากองทุน Emerging Market คาด Turning Point ต้นปีหน้า 


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.), สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ร่วมกันจัดสัมมนา “โอกาสหุ้นไทย ภายใต้เศรษฐกิจโลกผันผวน” ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ.รัชดาภิเษก 

โดยหัวข้อ “วิเคราะห์มุมมองการลงทุน ภายใต้เศรษฐกิจโลกผันผวน ” มีผู้ร่วมสัมนา ได้แก่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูลประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO), นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  และนายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA)  ที่ต่างเห็นพ้องว่าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน การลุงทุนยังต้องติตาม มีปัจจัยต่างประเทศ ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทอง และน้ำมัน , นโยบายการเงินของ FED ที่อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงอีกระยะหนึ่งหลังภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง  นอกจกานี้ ทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดทุนของรัฐบาลจีน 


ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/2566 ความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นค่าใช้จ่ายของรัฐบาลทั้งมาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ  และโครงการ digital wallet 10,000 บาท ที่อาจล่าช้าไปถึงเดือน ก.ย.2567 ซึ่งจะส่งผลต่อประมาณการ GDP ในปีหน้า อัตราหนี้ครัวเรือนที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ90.7%  และหนี้สาธารณะที่สูงมากในระดับ 61.7% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกที่น่าจับตามองจากแนวโน้มการขยายตัวของภาคท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี หลังรัฐบาลประกาศเพิ่มฟรีวีซ่าให้แก่รัสเซีย อินเดีย และไต้หวัน หลังประกาศฟรีวีซ่าจีนและคาซัคสถานเมื่อเดือนก่อน

นายกอบศักดิ์  ยังเปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน เดือน ต.ค.2566 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 76.87 ปรับลง 31.5% จากเดือนก่อนหน้าลงมาอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันและกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” ความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มปรับตัวลดลง มองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือคาดหวังการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด คือความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รองลงมาคือการไหลออกของเงินทุน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค

ทั้งนี้ มองว่าการที่นายกรัฐมนตรีมาจากภาคธุรกิจมีความได้เปรียบ และเข้าใจภาคเอกชน เห็นได้จากนโยบายต่างๆและมีการออกไปพบนักลงทุนต่างชาติเพื่อดึงดูดการลงทุนเข้าไทย อย่างไรก็ตาม เตรียมเสนอแนวทางส่งเสริมให้เกิดเงินลงทุนระยะยาว โดยช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ เตรียมเข้าหารือกับรัฐบาล ถึงการปรับกฎเกณฑ์ต่ออายุกองทุน SFF โดยอาจเสนอเงื่อนไขระยะเวลาแบบเดียวกับกองทุน LTF ซึ่งได้รับความนิยม  นอกจากนี้ ภาครัฐควรส่งเสริมการออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน รวมถึงกองทุนระยะยาว ที่เน้นด้านการศึกษา เยาวชน และผู้สูงอายุ เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด


ด้านนายภากร เปิดเผยว่า SET Index ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน ต.ค.2566 เป็นในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ทั่วโลก  จากความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ยังคงตึงเครียดและจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 5%  โดย SET Index ณ สิ้นเดือนต.ค.2566 หลุดกรอบ 1,400 จุดมาปิดที่ 1,381.83 ปรับตัวลดลง 6.1% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ 47,213 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องกว่า 15,649 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวมกว่า 171,021 ล้านบาท

 ส่วนกรณีช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น IPO ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เกิดจากความเชื่อมั่นนักลงทุนที่หายไป รวมทั้งกรณีMORE และ STARK ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอดยอมรับว่าอาจป้องกันไม่ได้ 100% แต่เชื่อว่าจะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดได้ยากขึ้น ส่วนการปรับปรุงเรื่อง Short Sell จำเป็นต้องใช้ข้อมูลประกอบหลายด้าน ซึ่งได้มีการดำเนินการมาโดยตลอดร่วมกับ ก.ล.ต. โดยยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการ Short Sell แบบเกาหลี ส่วนกรณี  Naked Short Sell  ทำไม่ได้แน่นอนเพราะมีข้อกำหนดที่เข้มงวดตาม พ,ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน มองว่าภาวะเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน แรงกดดันเงินเฟ้อทั่วโลกลดลงอย่างชัดเจน และไม่น่ากลับมาเป็นปัญหา ขณะที่แนวโน้ม FED มีโอกาสยุติดอกเบี้ยขาขึ้นที่ระดับปัจจุบันกำไรบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกมีทิศทางดีขึ้น คาดว่าจะปรับสู่ขาขึ้นในปีหน้า ขณะที่เม็ดเงินเริ่มทยอยไหลเข้ากองทุนEmerging Market นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับตลาดหุ้นเอเชีย ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสกลับมา Outperform ในปีหน้า โดยมองว่าแม้ตลาดหุ้นปรับลดลง 6% จากสงครามอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แต่ในระยะต่อไปหากสถานการณ์ไม่บานปลาย จะส่งผลต่อตลาดหุ้นจากนี้ไม่มาก สังเกตได้จากกรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งก็เป็นปัจจัยกระทบต่อตลาดหุ้นน้อยลง สำหรับตลาดหุ้นไทย ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่ความมั่นใจในนโยบายของรัฐบาลที่ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่ารัฐบาลมีการปรับตัวและรับฟังความคิดเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังวจากนี้ยังมีนโยบายที่รัฐบาลยังต้องทำอีกหลายเรื่อง มองว่าจะเป็นแรงจูงใจให้แรงซื้อของนักลงทุนกลับมา  โดยประเมิน Turning Point ในปีนี้อาจไม่ทัน อาจต้องรอถึงต้นปีหน้า.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร