กรุงเทพฯ 30 ธ.ค. – กรมป่าไม้แจ้งข้อกล่าวหา “แม่ธนาธร” ฐานบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จ. ราชบุรี เนื้อที่ 450 ไร่ พร้อมดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิที่ดิน นส.3 ก จำนวน 55 แปลง อีกทั้งเสนอให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน นส.3 ก อีกประมาณ 2,000 ไร่
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ได้รายงานนายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ถึงการตรวจสอบการครอบครองที่ดินใน จ.ราชบุรี ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เป็นการดำเนินการร่วมของศูนย์ปฎิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) ตามคำสั่งของนายวราวุธ ศิลปะอาชา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ให้ตรวจสอบการถือครองที่ดินแบบผิดกฎหมายของกลุ่มทุนทั่วประเทศ
สำหรับการครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ท้องที่ จ. ราชบุรีนั้น นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จ. ราชบุรีเป็นผู้ร้องเรียน
นายชีวะภาพกล่าวต่อว่า สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าขยายผลตรวจสอบตั้งแต่ชวันที่ 7- 28 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ศูนย์ประสานงานการปฏิบัติที่ 1 (ภาคกลาง) และที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปกส.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งสอบสวนต่อเนื่องจากข้อมูลเดิมที่ได้ดำเนินการไว้ โดยตรวจสอบพื้นที่ของนางสมพร พบว่า มีการนำเอกสารสิทธิที่ดินที่เกี่ยวข้อง 77 แปลง (ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 43-0-64 ไร่ นส.3 ก 55 แปลง เนื้อที่ 2,010-22-00 ไร่ นส. 3 จำนวน 14 แปลง เนื้อที่ 694–2-63 ไร่ รวมทั้งหมด 3,098 ไร่เศษ ที่ดินทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้าย แม่น้ำภาชี และซ้อนทับกับเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ซึ่งประกาศเมื่อพ.ศ. 2554 แต่ยังไม่มีแผนงานและงบประมาณที่จะการดำเนินงาน จึงยังถือว่า อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติและแปลงที่ดินทั้งหมดซ้อนทับในเขตป่าไม้ถาวร หมายเลขที่ 85
นอกจากนี้ยังพบว่า นส.3 ก ทั้ง 55 ฉบับออกออกเมื่อปี 2521 โดยไม่มีหลักฐานเดิม (สค.1) แต่เป็นการเดินสำรวจ ทั้งนี้การประกาศพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณดังกล่าวเป็นเขตป่าไม้ถาวรหมายเลข 85 ดำเนินการเมื่อพ.ศ. 2512 ซึ่งประกาศก่อนที่จะมีการออกเอกสาร นส.3 ก ทั้ง 55 ฉบับ ดังนั้นจึงเป็นผลให้เป็น นส.3 ก ทั้ง 55 ฉบับเอกสารที่ออกไม่ชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้น
นายชีวะภาพกล่าวต่อว่า ที่ดินอีกแปลงหนึ่งที่ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเชื่อได้ว่านางสมพร มีเจตนาครอบครองที่ดิน นส 2 โดยการซื้อเปลี่ยนมือจากบุคคลอื่นแบบผิดกฎหมาย 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ ซึ่ง ต่อมากลุ่มชาวบ้านหมู่ที่ 14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ .ราชบุรีซึ่งทมีแผนงานจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้านจึงร้องเรียนต่อหน่วยราชการ จากนั้นนางสมพรมอบหมายให้ผู้แทนร่วมตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย แล้วยอมรับการครอบครอง ต่อมาแสดงเจตนามอบให้หมู่บ้านจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาครอบครอง นส.2 แบบผิดกฎหมายของนางสมพร
อีกประการหนึ่งที่ตรวจสอบพบคือ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ครอบครองที่ดินมือเปล่าแบบผิดกฎหมาย (ภบท.5) อ 1แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ ในท้องที่หมุ่ที่3 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยตรวจสอบพบหลักฐานใบเสร็จรับเงินที่ระบุชื่อนางสมพร จึงรุ่งเรื่องกิจ จ่ายเงินค่าที่ดินมือเปล่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 90 ไร่ ในช่วงปี 2553-2556 ส่วนเอกสาร โฉนดที่ดิน 1 แปลงและ นส.3 อีก 14 ฉบับอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสอบ
นายชีวะภาพกล่าวต่อว่า สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าขยายผลตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 7- 28 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ศูนย์ป้องกันและปราบปราม (ศปป.) ที่ 1 ภาคกลาง และศูนย์ประสานการปฏิบัติงานที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปกส.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งสอบสวนต่อเนื่องจากข้อมูลเดิมที่ได้ดำเนินการไว้ . – สำนักข่าวไทย