ส.อ.ท.ห่วงบาทแข็งโป๊ก


กรุงเทพฯ 17 ธ.ค.-ส.อ.ท.ห่วงบาทแข็งโป๊ก ความเชื่อมั่นภาคอุตฯ ดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าขณะนี้ยอมรับมีความเป็นห่วงอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน โดยการแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ที่แข็งค่าขึ้นกว่า 8.56% อยู่ที่ 30.22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากเดือนเม.ย.2563 อยู่ที่ 33.05 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออกและรายได้จากการส่งออกลดลง เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนามที่ค่าเงินดองแข็งค่าขึ้นเพียง 1.97%

“การแข็งค่าของเงินบาทส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้นกว่าประเทศอื่นๆ เป็นข้อพิจารณาของประเทศคู่ค้า หากต้องการซื้อสินค้าจากไทย จึงเป็นเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรต้องมีมาตรการเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะส่งผลกระทบต่อศักยภาพของการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมองว่าค่าเงินบาทที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ไม่อย่างนั้นก็จะต้องไปทำการค้ากับประเทศที่มีค่าเงินแข็งกว่าเงินบาท อย่างออสเตรเลียที่ค่าเงินแข็งขึ้นกว่า 18.52%”นายสุพันธุ์ กล่าว


โดยจากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,258 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศในเดือนพ.ย.2563 พบว่าปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก 70.5% อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในมุมมองของผู้ส่งออก 46.1% ราคาน้ำมัน 41% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 40.5% ตามลำดับ ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ 55%

ทาง ส.อ.ท. จึงมีข้อเสนอแนะต่อให้ธปท. ดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในทิศทางเดียวกับประเทศอื่นในภูมิภาค เพื่อให้ผู้ประกอบการส่งออกสามารถแข่งขันได้ ให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2564 และเร่งเบิกจ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ที่สำคัญขอให้ภาครัฐรักษามาตรฐานการควบคุมโรคโควิด-19 หลังจากมีการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เพราะยอมรับว่าผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศและในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากการลักลอบเข้าเมือง รวมถึงการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง


นายสุพันธุ์ กล่าวว่าสำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย.2563 อยู่ที่ระดับ 87.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 86.0 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดในประเทศได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่องในโครงการต่างๆ เช่น โครงการคนละครึ่ง ช็อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเงินช่วยเหลือเกษตรกร ส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประชาชนและ การใช้จ่ายในประเทศ รวมทั้งการใช้จ่ายภาครัฐในโครงการลงทุนต่างๆ ยังเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ส่วนตลาดต่างประเทศ ก็มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอาหาร สินค้าที่เกี่ยวกับการแพทย์และการป้องกันโรค และคำสั่งซื้อล่วงหน้าในกลุ่มสินค้าที่ใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า เครื่องหนัง สินค้าเซรามิก เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ส่งผลให้ภาคการผลิตเร่งผลิตสินค้าเพื่อส่งมอบก่อนช่วงเดือนธ.ค.ที่มีวันหยุดในช่วงเทศกาล

อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 94.1 จากเดือนก่อนคาดจะอยู่ที่ระดับ 91.9 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และการใช้จ่ายของภาครัฐทั้งการบริโภคและการลงทุน รวมทั้งความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ การผ่อนปรนมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ