รองนายกฯ ประกาศย้ำปี 64 เตรียมพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย


ไอคอนสยาม 2 ธ.ค. – รองนายกฯ ประกาศย้ำปี 64 เตรียมพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย เป็นแม่เหล็กของการลงทุน ชวนคนไทย ออกไปท่องเที่ยว ใช้จ่ายคนละครึ่ง เพื่อผลักดันจีดีพีปีนี้หดตัวเพียงร้อยละ 6 ยืนยัน ไทยจะฟื้นกลับมาโดดเด่นหลังโควิด


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานสัมมนา “โควิด 19 กับอนาคตเศรษฐกิจไทย 2021” ว่า คาดจีดีพีไทยหดตัวในปีนี้ ร้อยละ -6 หลังจากรัฐบาลเร่งอัดฉีดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจหลายโครงการเป็นเงินกว่า 8 แสนล้านบาท ยืนยันว่าไทยผ่านจุดต่ำสุดของปัญหาเศรษฐกิจไปแล้ว สำหรับปัญหาพักหนี้ 6.8 ล้านล้านบาท ร้อยละ 94 ยังลุกขึ้นยืนเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนอีกร้อยละ 6 ต้องออกไปติดตามดูแลเพิ่มเติม ดังนั้นปัญหาหนี้เสียเหมือนกับปี 40 คงไม่เกิดขึ้น ไทยจึงพร้อมลุกขึ้นยืนเดินหน้าต่อไปได้

สำหรับแนวโน้มในปี 64 ภายใน 12 เดือนทุกอย่างจะกลับเหมือนเดิม ปีหน้าจะเป็นการเตรียมตัวขยับ ยกเครื่องใหญ่ ให้เดินหน้าก้าวไป ไทยยังเป็นประเทศท่องเที่ยว เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ ที่ปลอดภัยจากโควิด-19 พร้อมมองว่า กรุงเทพฯอีก 3 ปีข้างหน้า จะเปลี่ยนแปลง หลังจากรัฐบาลได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งรถไฟฟ้า 13 เส้นทาง กรุงเทพฯ มีคลองสวยงาม เช่น คลองโอ่งอ่าง คลองผดุงกรุงเกษม และอีก 16 คลองทั่วกรุงเทพฯ การเชื่อมโยงส่วนสาธารณะ สวนดอกไม้ สถานีกลางบางซื่ออันทันสมัยในการเดินทาง จึงเป็นสิ่งใหม่ๆ สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เพราะได้ก่อสร้างมานานแล้ว เพื่อให้คนไทยร่วมเปลี่ยนแแปลงเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาการส่งออก ก้าวไปสู่เศรษฐกิจเทคโนโลยี นำความรู้ คนรุ่นใหม่มาช่วยสร้างประเทศ


นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ไทยต้องเปลี่ยนการส่งออกหันมาพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศระดับภูมิภาค จากเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่ หลังจากคนไทยคุ้นเคยกับการใช้เงินแบบไร้เงินสด ความพร้อมของการวางระบบไฟเบอร์ออฟติก และการลงทุนระบบ 5 G กรุงเทพ จึงเป็นศูนย์การลงทุนด้านนวัตกรรม การเป็นศูนย์การลงทุน การดึงนักลงทุนเข้าไปลงทุนในเขตอีอีซี และบริษัทไทยยังพร้อมลงทุนผลิตวัคซีนป้องกันโควิด ซึ่งคืบหน้าไปเยอะมากแล้ว รัฐบาลยังต้องการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ BCG เศรษฐกิจหมุนเวียน เดินหน้าพัฒนาการบริการ 5G , บริการ Cloud Service และเมื่อโจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ เข้ามาบริหาร จะส่งเสริมเศรษฐกิจระหว่างประเทศให้เชื่อมโยงกันมากขึ้น จึงชวนทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ร่วมดึงไทยพลิกฟื้นกลับมาหลังโควิด เพราะไทยมีพื้นฐานเข้มแข็ง เพื่อก้าวไปอย่างเติบโต ด้วยประเทศอันทันสมัย .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน