สงขลา 5 เม.ย. – สืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา จับสองสามีภรรยา ทิ้งศพแรงงานเถื่อนบริเวณป่าริมถนนสายเอเชีย อ.บางกล่ำ สารภาพแรงงานเป็นลมเสียชีวิต ไม่รู้จะเอาไปไว้ไหนจึงขนไปทิ้งป่า
ตำรวจชุดสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา นำหมายจับของศาล จ.สงขลา เข้าจับกุมนายธีระ อายุ 46 ปี และ น.ส.ซารีนา อายุ 22 ปี สองสามีภรรยา ที่บ้านพักภายในซอยสันติราษฎร์ หมู่ 2 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในข้อหาร่วมกันปิดบัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และข้อหาร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นต่อการถูกจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่
คดีนี้เชื่อมโยงมาจากเหตุการณ์พบศพแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมือง ถูกนำมาทิ้งบริเวณป่าริมถนนสายเอเชีย อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สภาพศพถูกห่อด้วยกระสอบปุ๋ยสีขาว ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงวอร์มขายาว สภาพขึ้นอืด โดยข้อมือขวาของศพมีเชือกฟางสีฟ้าผูกอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ขบวนการขนแรงงานเถื่อนใช้แยกกลุ่มระหว่างการเดินทาง
วันรุ่งขึ้นคือ 9 กุมภาพันธ์ ชุดสืบสวนของ ตม.สงขลา และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา จับกุมรถบรรทุก 4 ล้อเล็กตู้ทึบ อีซูซุสีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร บนถนนสายเอเชียขาล่องใต้ พื้นที่ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ขณะขนแรงงานต่าวด้าวหลบหนีเข้าเมืองมา 33 คน เป็นชาย 21 คน และหญิง 12 คน พร้อมนายวิเศษศักดิ์ อายุ 56 ปี เป็นคนขับ
ภายหลังจากควบคุมตัวนายวิเศษศักดิ์ มาสอบสวน นายวิเศษศักดิ์รับสารภาพว่าศพเมียนมาที่พบถูกนำไปหมกป่านั้นตนเป็นคนขนมาเอง ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แต่แรงงานเป็นลมระหว่างทาง และนำมาปล่อยทิ้งไว้ในบ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ควนลัง ซึ่งใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวของแรงงานต่างด้าว รอส่งข้ามแดนไปยังปลายทางที่มาเลเซีย ซึ่งนายวิเศษศักดิ์ปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่คนที่นำศพไปทิ้ง
ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เริ่มลงพื้นที่ตามแกะรอยคลี่คลายคดีนี้เพื่อล่าตัวคนที่นำศพไปทิ้ง โดยใช้เวลาเกือบ 2 เดือน นับตั้งแต่วันที่พบศพ (8 ก.พ. 68) จนกระทั่งได้หลักฐานสำคัญเป็นภาพวงจรปิดรถกระบะต้องสงสัยที่ขับไปจอดริมถนนปากทางเข้าไปยังจุดที่พบศพ เมื่อช่วงเกือบๆ ตี 1 คืนวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา และตามไล่กล้องเส้นทางรถกระบะคันนี้ปะติดปะต่อจนถึงต้นทาง จนรู้ว่ายังมีรถจักรยานยนต์อีก 1 คันที่ขับนำทางมา ขณะออกจากแยกไฟแดงเส้นทางสายท่าท้อน พื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จนรู้ตัวผู้ที่นำศพไปทิ้งว่าเป็น นายธีระ กับ น.ส.ซารีนา สองสามีภรรยา จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาล จ.สงขลา ออกหมายจับ
จากการสอบสวน นายธีระ กับ น.ส.ซารีนา ให้การยอมรับสารภาพว่าร่วมกันนำศพไปทิ้งจริง โดยนายธีระ เป็นคนขับรถกระบะขนศพ และ น.ส.ซารีนา ขับรถจักรยานยนต์ดูเส้นทางว่ามีด่านตรวจตำรวจหรือไม่
นอกจากนี้ นายธีระยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าตนทำหน้าที่เป็นคนดูแลแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองที่ถูกขนมาพักไว้ในบ้านเช่าในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ได้ค่าจ้างวันละ 500 บาท หรือเดือนละประมาณ 15,000 บาท แต่ว่าชุดนี้มีคนเป็นลมเสียชีวิต 1 คน
ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไง รอให้ค่ำแล้วจัดการห่อศพด้วยกระสอบและเสื่อปูที่นอน ยกขึ้นรถกระบะไปทิ้งไว้ในป่าถนนสายเอเชีย พอทิ้งศพเสร็จก็พากันกลับบ้านและมาทำความสะอาดบ้านเช่า ทำลายหลักฐาน หลังจากนั้นสองวันก็ย้ายออกจากบ้านเช่าหลังนี้ที่ใช้เป็นที่พักพิงคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวสองสามีภรรยา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางกล่ำ เพื่อดำเนินคดีต่อไป พร้อมกับยึดรถกระบะอีซูซุสีดำ ซึ่งเป็นรถขนศพ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ซึ่งเป็นรถที่ขับนำทางตอนนำศพไปทิ้ง พร้อมหมวกกันน็อกและเสื้อผ้าที่ น.ส.ซารีนา สวมใส่ในคืนเกิดเหตุ ไว้เป็นหลักฐานในคดี.-สำนักข่าวไทย