กพช.เห็นชอบโรงไฟฟ้าชุมชนเริ่มเปิด ม.ค.64

กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – กพช.เห็นชอบส่งเสริมเปิดรับซื้อ​โรงไฟฟ้าชุมชน​ นำร่อง 150 เมกะวัตต์​ เปิดยื่น ม.ค.64 หลังจากนั้นประเมินผล 1 ปีครึ่งก่อนเปิดรับซื้ออีกรอบ พร้อมเห็นชอบกองทุนอนุรักษ์​ฯ ปี 64 วงเงิน 6,500ล้านบาท​ เน้นสร้างงานสร้างรายได้


นายสุพัฒนพงษ์  พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน​ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติหรือ​ กพช. ซึ่่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันนี้ได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนโครงการนำร่องโดยใช้ชีวมวลและก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย ≤ 25 %) มีเป้าหมาย 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นชีวมวล 75 เมกะวัตต์ ปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการ และก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์ ปริมาณไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครงการ กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 36 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาฯ ให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) แบบแข่งขันทางด้านราคาเฉพาะค่าไฟฟ้า AP (Availability Payment) หรือ ค่าความพร้อมจ่ายเท่านั้น​ ส่วนค่าเชื้อเพลิงไม่แข่งขันแต่อย่างใด​

สำหรับการแบ่งปันผลประโยชน์ อาทิ การให้หุ้นบุริมสิทธิร้อยละ 10 ให้กับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย) ซึ่งเป็นผู้ปลูกพืชพลังงานให้แก่โรงไฟฟ้า การให้ผลประโยชน์อื่น ๆ ให้โรงไฟฟ้าและชุมชนทำความตกลงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา เป็นต้น


ทั้งนี้​ คาดว่าจะเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอเดือน​มกราคม 2564 และคัดเลือกเสร็จเดือนเมษายน 2564หลังจากนั้นจะดูผลการดำเนินการเพื่อประเมินผลและปรับปรุงหลักเกณฑ์​เพื่​อเปิดรับซื้อรอบใหม่ในอีก 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง​ โครงการนี้เน้นให้เกษตรกรได้ประโยชน์ จึงกำหนดต้องรับซื้อพืชเชื้อเพลิงจากเกษตรกรไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ​ซึ่งประเมินว่ากำลังผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์​ จะใช้พื้นที่ปลูกพืชถึง​ 1,000 ไร่

นอกจากนี้​ กพช.เห็นชอบแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 6,500 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 และให้คณะกรรมการกองทุนฯ มีอำนาจปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญฯ และการจัดสรรเงินตามกลุ่มงานต่าง ๆ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยแผนอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน กรอบวงเงิน 6,305 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.กลุ่มงานตามกฎหมาย  200 ล้านบาท 2. กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน 500 ล้านบาท 3. กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ 355 ล้านบาท 4. กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร 200 ล้านบาท 5. กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร 450 ล้านบาท 6. กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมขนาดเล็ก (SMEs) อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ 2,200 ล้านบาท 7. กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก 2,400 ล้านบาท และแผนบริหารจัดการสำนักงานกองทุนฯ (ส.กทอ.) 195 ล้านบาท

สำหรับกลุ่มงานที่ 7 นั้นเน้นสร้างงานสร้างงานสร้างรายได้แก่ประชาชนใน 76 จังหวัด จึงจัดสรรงบจังหวัดละ 25 ล้านบาทให้เสนอโครงการฯ ผ่านคณะกรรมการบูรณาการที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน​  ส่วนกลุ่มงานอื่น ๆ เสนอมาที่สำนักงานกองทุนฯ เช่นเดิม โดยจะเร่งเปิดพิจารณาโครงการ​โดยเร็วตั้งแต่​เดือนมกราคมและงบฯ จะพิจารณา​เสร็จ​สิ้นประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน 2564 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้น​เศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว