ศาลไต่สวนนัดแรกบีทีเอสร้องประมูลรถไฟฟ้าสีส้มไม่เป็นธรรม

กรุงเทพฯ  14 ต.ค. – ศาลปกครองเริ่มไต่สวนคดีบีทีเอสร้องกรณี รฟม.ปรับปรุงเงื่อนไขประมูลรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก ด้านผู้บริหารบีทีเอสและผู้ว่าฯ รฟม.เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนด้วยตนเอง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. ศาลปกครองเริ่มไต่สวนคดีที่กลุ่มบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ยื่นคำร้องขอให้คุ้มครองและเพิกถอนมติของคณะกรรมการตามมาตรา 36 ที่ได้มีการปรับปรุงและขยายเวลาวิธีการประเมินและยื่นซองประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี มูลค่ากว่า 140,000 ล้านบาท

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมาย รวมทั้งผู้บริหารบีทีเอส นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนด้วยตนเอง โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างมั่นใจในหลักฐานและอำนาจตามกฎหมายที่มี อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกันว่าวันนี้ศาลจะไต่สวนโดยอาจจะยังไม่มีคำสั่งอย่างใดออกมา ซึ่งจะต้องติดตามคำสั่งศาลหลังจากศาลพิจารณาเสร็จอีกครั้ง


สำหรับปัญหาการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วง (บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มูลค่าโครงการกว่า 140,000 ล้านบาท  โดยต้องจับตาต่อไปว่าผลของการปรับวิธีการประเมินการยื่นซองประกวดราคาของ รฟม.และคณะกรรมการตามมาตรา 36 ที่ดำเนิการไปแล้ว รวมถึงการขยายระยะเวลาให้เอกชนยื่นซองไป 45 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 9 พฤศจิกายนปีนี้  ทำให้เกิดปัญหาขัดแย้ง กับเอกชนยักษ์ใหญ่ที่เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการ โดยต้องจับตาว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลให้ต้องมีการล้มการประกวดราคารอบนี้ ซึ่งแน่นอนจะทำให้การดำเนินโครงการต้องล่าช้าออกไปอีกหรือไม่

ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ขอให้ทบทวนวิธีการประเมินข้อเสนอการร่วมทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) อ้างว่าอันนี้ไม่ควรให้พิจารณาให้ผู้ชนะประมูลเป็นผู้ที่เสนอผลประโยชน์ทางการเงินสูงสุดเท่านั้น แต่ควรพิจารณาผู้ที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่รัฐในภาพรวม ทำให้โครงการประสบความสำเร็จได้ โดยพิจารณาถึงปัจจัยและผลประโยชน์ด้านอื่น เช่น ข้อเสนอด้านเทคนิคการดำเนินงาน ความน่าเชื่อถือ ศักยภาพและความสามารถของผู้ยื่น จนต่อมา รฟม.ได้ออกประกาศปรับหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจาก รฟม.ปิดการขายซองเอกสารประมูลไปแล้วเกือบ 1 เดือน หรือตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2563

การปรับหลักเกณฑ์ครั้งนี้ส่งผลให้กลุ่มบีทีเอสยื่นคำร้องต่อศาลปกครองวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ขอคุ้มครองชั่วคราว โดยขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการมาตรา 36 ที่ปรับปรุงให้มีการขยายเวลา และเพิกถอนเอกสารการคัดเลือกเอกชน (RFP) เกี่ยวกับการประเมิน และร้องให้ศาลสั่งระงับการคัดเลือกเอกชนไว้ก่อนจนกว่าศาลจะพิจารณาคดีเสร็จ โดยศาลปกครองนัดไต่สวนคำร้องของบีทีเอสและคำคัดค้านของ รฟม.วันนี้   


ก่อนหน้านี้ผู้ว่าการ รฟม.ยืนยันว่า รฟม.และคณะกรรมการมาตรา 36 ปรับวิธีการประเมินการยื่นซอง โดยมีอำนาจตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2562 ไม่มีการดำเนินการส่อไปในทางทุจริต เพราะยังไม่มีการรับซองข้อเสนอ นอกจากนี้ ยังมีการขยายระยะเวลายื่นซองออกไปอีก 45 วัน ทำให้เอกชนทุกรายมีเวลาปรับปรุงข้อเสนอไม่น้อยกว่า 70 วัน และจะมีเวลาปรับปรุงข้อเสนอให้เป็นไปตามการประเมินคุณสมบัติ โดยเท่าเทียมกัน และมีข้อต่อสู้ที่สำคัญ คือ ความเป็นผู้เสียหายของผู้ฟ้อง (บีทีเอส) โดยยืนยันขณะนี้ยังอยู่ในช่วงให้เอกชนเตรียมข้อเสนอราคายังไม่ได้ทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบแก่เอกชนรายใด จึงยังไม่มีผู้เสียหายเกิดขึ้น

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินฯ หลังจากการปิดขายซองไปแล้วนั้น ผู้ว่าฯ รฟม.ระบุว่าในข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ และความเห็นของ สคร.ระบุให้ รฟม.สามารถดำเนินการรับฟังข้อเสนอของเอกชน เพื่อนำมาปรับปรุงหลักเกณฑ์ เพื่อดำเนินการ จึงไม่ได้มีการเอื้อประโยชน์ หรือฟังแค่ความเห็นของเอกชนเพียงรายหนึ่งรายใดเท่านั้น

ส่วนข้อกังวลว่าการปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าว  โดยเฉพาะประเด็นเรื่องประสบการณ์การขุดอุโมงค์จะส่งผลให้บีทีเอสเสียเปรียบเอกชนรายอื่นนั้น รฟม.ระบุว่าการเปิดให้เอกชนรายใดเข้าเสนอคุณสมบัตินั้น ก็จะมีลักษณะการเปิดกว้างโดยระบุเป็นเพียงประสบการณ์ในการขุดอุโมงค์ที่มีขนาดกว้างไม่น้อยกว่า 5 เมตร  รวมทั้งเอกชนที่ยื่นข้อเสนอก็สามารถนำคุณสมบัติของผู้รับเหมาช่วง หรือ subcontract มาประกอบการยื่นข้อเสนอในการพิจารณาคุณสมบัติได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ รฟม. ยืนยันว่าหากศาลมีคำสั่งคุ้มครอง หรือยกคำร้องคุ้มครอง ทั้ง 2 ฝ่ายมีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ได้ตามขั้นตอน และยืนยันว่าพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของศาล มั่นใจกรณีดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อแน่นอน

นายสุรพงษ์ ยืนยันอีกครั้งว่าบีทีเอสพร้อมเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาลปกครองวันนี้ ส่วนศาลจะมีคำสั่งเมื่อใด ต้องติดตามการพิจารณาของศาลอีกครั้ง โดยในส่วนของบีทีเอสยืนยันว่าการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบแก่บีทีเอส ส่วนข้อต่อสู้ที่ รฟม.ระบุว่ายังไม่มีเอกชนรายใดยื่นซอง บีทีเอสจึงไม่ใช่ผู้เสียหายนั้น คงต้องไปพิสูจน์กันในศาล

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่าง กรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็นส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]