กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – คปภ.มอบรางวัล APFinSA Awards แนะตัวแทนประกันชีวิตพัฒนาศักยภาพการทำงานในสถานการณ์ “COVID Disruption”
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มอบรางวัลเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจตัวแทนประกันชีวิตจากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในงาน APFinSA Awards ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 จัดโดยสมาคมที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิกและสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมตัวแทนประกันชีวิตของประเทศไทยที่สามารถพิชิตรางวัลคุณวุฒิมากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเป็นรองแค่ไต้หวัน ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเข้าถึงการทำประกันภัยสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งนี้ ตัวแทนประกันชีวิตถือเป็นกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการขยายตัวของอุตสาหกรรมประกันชีวิต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงจากยุคโลกาภิวัฒน์ที่เป็นเรื่องของ “Digital Disruption” เข้าสู่ยุคโควิดภิวัฒน์ในสถานการณ์ “COVID Disruption” พฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงานและทำธุรกรรมออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้น ตัวแทนประกันชีวิต จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงและต้องแข่งขันด้านการให้บริการ เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับความพึงพอใจสูงสุด ไม่ใช่แข่งขันกันด้านราคา หรือมุ่งแต่เพียงทำยอดขายประกันให้สูงแต่อย่างเดียว
นายสุทธพล กล่าวเพิ่มเติมว่า คปภ.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2564-2568) โดยนำบริบทต่าง ๆ เข้ามาปรับเพื่อให้การกำกับดูแลการประกันภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมถึงมีการออกประกาศ คปภ. เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต/วินาศภัย และธนาคาร พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 โดยหลักเกณฑ์ของประกาศฉบับดังกล่าว ทำให้มีการกำกับดูแลคนกลางประกันภัยได้โดยตรงเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และช่วยให้เกิดความคล่องตัวของช่องทางการขายในการให้บริการประชาชน โดยเฉพาะการเสนอขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Face to Face ที่มีการอนุญาตให้ใช้เป็นการเฉพาะกิจในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเมื่อได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งภาคธุรกิจประกันภัยและประชาชนผู้ใช้บริการ จึงกำหนดหลักเกณฑ์การเสนอขายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แบบ Digital Face to Face ไว้เป็นการถาวร.-สำนักข่าวไทย