กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – รมว.เกษตรฯ มอบหมายกรมชลประทานเดินหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำพื้นที่อีอีซี ซึ่งเป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจสำคัญ ทำให้ความต้องการใช้น้ำจากทุกภาคส่วนเพิ่มขึ้น โดย ครม.อนุมัติ 8 โครงการ ด้านอธิบดีกรมชลประทานระบุต้องทำควบคู่กับแผนบริหารจัดการน้ำทั้งด้วยระบบสูบกลับ การผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ เพื่อให้มีเพียงพอใช้ในภาวะที่ลุ่มน้ำประแสร์มีน้ำน้อย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้นำแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกของกรมชลประทานเสนอต่อที่ประชุม ครม. ซึ่งมีมติอนุมัติ 8 โครงการ วงเงิน 5,890 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จ.ระยอง ซึ่งมีแผนเตรียมความพร้อมในปี 2564 และเตรียมบรรจุเข้าแผนก่อสร้างปี 2565 โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี โครงการอ่างเก็บน้ำเขาจอมแหเขานั่งยอง จ.ระยอง โครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำบางไผ่ จ.ชลบุรี โครงการอ่างเก็บน้ำหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา โครงการอ่างเก็บน้ำคลองกะพง จ.ฉะเชิงเทรา โครงการประตูระบายน้ำคลองท่าลา จ.ฉะเชิงเทรา และโครงการศึกษาสำรวจออกแบบระบบสูบกลับอ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า รัฐบาลเร่งจัดทำแผนพัฒนาอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำ ลดผลการทบจากการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งย้ำให้กรมชลประทานให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำด้านการเกษตรเป็นหลัก เพราะหากการเกษตรเข้มแข็งประเทศชาติจะมั่นคง ส่วนการก่อสร้างโครงการที่ ครม.อนุมัติล่าสุดนั้น นายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องทยอยดำเนินการทีละขั้นตอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์และงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงกำชับกรมชลประทานให้ดำเนินการโครงการดังกล่าวตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัดควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำด้วยแผนงาน/โครงการที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ในทุกภาคส่วน เนื่องจากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นมาก แต่น้ำต้นทุนมีน้อย โดยเฉพาะลุ่มน้ำประแสร์อยู่ในภาวะวิกฤติ ซึ่งกรมชลประทานแก้ไขปัญหาเร่งด่วนด้วยการก่อสร้างระบบสูบกลับชั่วคราวจากคลองสะพานมาเติมยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอตลอดฤดูแล้งที่จะมาถึง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำประแสร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง มีความจุอ่าง 295 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ส่งน้ำให้ทั้งภาคเกษตรและสนับการอุปโภคบริโภค ปัจจุบันมีน้ำเก็บกัก 92.65 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่าง คาดการณ์ปริมาตรน้ำเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนช่วงปลายเดือนตุลาคมจะประมาณ 248 ล้าน ลบ.ม. ดังนั้น จึงแก้ไขปัญหาภัยแล้งเร่งด่วนด้วยการก่อสร้างระบบสูบกลับชั่วคราวคลองสะพานมาเติมยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ ปัจจุบันต่อเชื่อมท่อลงอ่างประแสร์แล้วเสร็จ สามารถสูบน้ำได้ 170,000 ลบ.ม./วัน โดยเริ่มดำเนินการสูบแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม รวมทั้งขุดลอกแหล่งน้ำในพื้นที่บริเวณขอบอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงสามารถใช้น้ำในอ่างช่วงที่น้ำในอ่างมีระดับต่ำลงได้
สำหรับคลองสะพานเป็นคลองธรรมชาติขนาดใหญ่มีต้นกำเนิดจาก อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ไหลผ่าน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง มีพื้นที่รับน้ำกว่า 244,000 ไร่ ความยาวคลองประมาณ 40 กิโลเมตร ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 158.8 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ในโครงการประกอบด้วย แนวท่อส่งน้ำ 3 กิโลเมตร และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทำการสูบผันน้ำจากคลองสะพานไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้ปีละกว่า 50 ล้าน ลบ.ม. โครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำบ้านยางงาม ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งเป็นก่อสร้างระบบส่งน้ำกระจายน้ำด้วยท่อเหล็กเหนียวระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร สามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรได้กว่า 5,000 ไร่ ทั้งยังเป็นการลดการศูนย์เสียน้ำในระหว่างการส่งน้ำอีกด้วย และโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำแก่งหวาย ต.ชุมแสง อ. วังจันทร์ จ.ระยอง เพื่อยกระดับน้ำในคลองสะพานให้สูงขึ้นเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้
ทั้งนี้ เป็นโครงการก่อสร้างโดยกรมชลประทาน ซึ่งร่วมมือระหว่างผู้ใช้น้ำภาคอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (อีสท์ วอเตอร์) ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 39 ของแผน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จปีงบประมาณ 2564 แนวทางดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำประแสร์ในการสนับสนุนน้ำตามความต้องการใช้น้ำของพื้นที่อีอีซี สามารถทำการสูบน้ำได้ปีละกว่า 50 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดทั้งปี ในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูแล้ง.-สำนักข่าวไทย