กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – 7 สายการบิน เข้าพบ “ศักดิ์สยาม” ทวงเยียวยาโควิด-19 เตรียมชง “บิ๊กตู่” 19 ส.ค.นี้ ด้าน กพท.คาด 1 ก.ย.63 ปลดล็อกขายอาหาร-เครื่องดื่มบนเครื่องได้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง 7 สายการบินเข้าพบ เพื่อขอให้กระทรวงคมนาคมช่วยติดตามความคืบหน้าการขอให้รัฐบาลช่วยเยียวยาผู้ประกอบการสายการบิน หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า วันนี้ (17 ส.ค. ) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ 7 สายการบิน ประกอบด้วย สายการบินไทยสมายล์, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, นกแอร์, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยเวียตเจ็ท, และไทยไลอ้อนแอร์ มาสอบถามความก้าวหน้ามาตรการเยียวยาต่าง ๆ อาทิ การขอกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) เบื้องต้นทราบว่ากระทรวงการคลังได้มอบให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ดำเนินการแล้ว แต่ติดปัญหาการประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกัน เนื่องจากส่วนใหญ่สายการบินจะใช้รูปแบบการเช่าเครื่องบิน
ทั้งนี้ จะหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะสามารถใช้วิธีเปลี่ยนสินทรัพย์เป็นทุน ด้วยการนำใบอนุญาตประกอบการกิจการค้าขายในการเดินอากาศใหม่ (AOL) ซึ่งเป็นใบอนุญาตฯ ที่ได้รับจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) แปลงเป็นทุนได้หรือไม่ เนื่องจากใบอนุญาตดังกล่าวสามารถนำมาหารายได้และนำไปเช่าซื้อเครื่องบินได้
“อยากให้ทุกฝ่ายเดินไปด้วยกัน ไม่อยากให้ผู้ประกอบการประสบกับสภาวะที่ไปไม่รอด เพราะจากการพิจารณาเบื้องต้นโครงสร้างของแต่ละสายการบินยังแข็งแรง และขณะนี้เริ่มกลับมาทำการบินเส้นทางภายในประเทศ และมีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บางสายการบินมีผู้โดยสารภายในประเทศกลับมาแล้วประมาณ 80-90% เพราะนี่ก็เกือบครบ 100 วันแล้ว ที่ไม่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศไทย จึงไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้น และต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ผู้ประกอบการสายการบินยังขอขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน จาก 4.726 บาท/ลิตร เหลือ 0.20 บาท/ลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดสิ้นเดือนกันยายน 2563 รวมถึงขอขยายเวลาการลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking) ในอัตรา 50% ซึ่งจะสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2563 ออกไปอีก อย่างไรก็ตาม วันที่ 19 สิงหาคมนี้ จะนำข้อเสนอต่าง ๆ ของผู้ประกอบการสายการบินเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณา
นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีการปลดล็อกผู้ประกอบการสายการบินให้สามารถจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบินได้ตามปกติ โดยมอบให้ผู้ประกอบการไปจัดทำรายละเอียดมาว่าจะมีวิธีการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มบนเครื่องบินอย่างไร รวมถึงจะมีอะไรเป็นหลักประกันว่าเมื่อเปิดให้จำหน่ายอาหารฯ แล้วจะไม่มีปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งจะนำข้อเสนอที่ผู้ประกอบการสายการบินเสนอให้นำ PCR TEST ซึ่งเป็นระบบตรวจหาโควิด-19 ที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขหลายประเทศให้การยอมรับ และมีความแม่นยำสูงมาใช้ที่สนามบินในประเทศไทยด้วย หากนายกรัฐมนตรีและกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เห็นว่าเป็นประโยชน์จริงอาจนำมาทดสอบต่อไป
ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. กล่าวว่า การห้ามจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบินที่ทำการบินต่ำกว่า 4 ชั่วโมงเป็นไปตามระเบียบขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่ง กพท.ออกประกาศบังคับสายการบินไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่เวลานี้การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มดีขึ้น และมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ มากขึ้น ร้านอาหารก็ขายอาหารตามปกติ ทางสายการบินจึงขอให้ปลดล็อกเรื่องการห้ามขายอาหารฯ บนเครื่องบิน เพราะการขายอาหารฯ บนเครื่องบิน นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับสายการบินแล้ว ยังกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมให้กับประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะนำเรื่องการเปิดให้สายการบินสามารถขายอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบินไปหารือกับสายการบิน และ สธ.ก่อน หากไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าจะยกเลิกประกาศ กพท.ฉบับเก่าและออกประกาศฉบับใหม่ โดยให้สายการบินเปิดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้ เฉพาะสายการบินที่ทำการบินภายในประเทศเท่านั้น เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย