ขนส่งเปิดตัวแอปฯ ชำระภาษี “DLT Vehicle Tax”

กรุงเทพฯ 11 ส.ค. –  กรมการขนส่งทางบกถือฤกษ์วันสถาปนาครบรอบ 79 ปี เปิดตัวแอปพลิเคชั่นชำระภาษี “DLT Vehicle Tax” และตู้รับชำระภาษีอัตโนมัติ ชำระภาษีรถด้วยตนเองได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีทันที


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมการขนส่งทางบก ครบรอบ 79 ปี พร้อมแถลงข่าวเปิดโครงการระบบตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) และ “DLT Vehicle Tax” แอปพลิเคชั่นชำระภาษีรถผ่านมือถือ “เปิดประสบการณ์ใหม่ในการเสียภาษีรถ แบบ New Normal : New Experience for DLT Vehicle Tax”

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพมายกระดับการให้บริการตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยปีนี้พัฒนาการให้บริการประชาชนโดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพมาใช้ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 กรมการขนส่งทางบกจึงพัฒนาบริการรับชำระภาษีรถประจำปีรูปแบบใหม่ (New Normal) ให้เหมาะสมกับการใช้งานและวิถีชีวิตของประชาชนปัจจุบัน โดยเพิ่มช่องทางการชำระภาษีรถประจำปีแบบ New Normal ผ่านแอปพลิเคชั่นชำระภาษีรถประจำปี “DLT Vehicle Tax” และตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) จากเดิมการให้บริการรับชำระภาษีผ่านหน่วยงานภายนอก เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ธนาคารพาณิชย์ ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ หรือระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ ประชาชนจะต้องรอรับใบเสร็จและเครื่องหมายการเสียภาษีทางไปรษณีย์เพียงอย่างเดียว แต่สำหรับแอปพลิเคชันชำระภาษีรถประจำปี “DLT Vehicle Tax” และตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ ประชาชนสามารถเลือกรับเครื่องหมายการเสียภาษีทางไปรษณีย์ หรือพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ ซึ่งสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองทุกขั้นตอน ไม่ต้องติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก


สำหรับช่องทางการให้บริการชำระภาษีรถประจำปีรูปแบบใหม่ผ่านแอปพลิเคชัน “DLT Vehicle Tax” สามารถเลือกให้จัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ หรือรับเอกสารด้วยตนเองที่ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ เมื่อชำระภาษีรถประจำปีผ่านแอปพลิเคชัน “DLT Vehicle Tax” เรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราว เพื่อให้เจ้าของรถสามารถใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีจากกรมการขนส่งทางบก ส่วนการให้บริการผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ เมื่อมีการชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีในทันที ซึ่งสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองทุกขั้นตอน โดยจะเริ่มเปิดให้บริการวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ช่วยให้ประชาชนที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยด้านสุขอนามัยในสถานการณ์โควิด-19 

ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ระยะแรกตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติจะตั้งอยู่ภายในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 โดยมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำการใช้บริการ นอกจากนี้ ยังมีติดตั้งที่กระทรวงคมนาคมและศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน โดยกำหนดต้องเป็นรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรกที่ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี ไม่ถูกอายัดทะเบียน ก่อนที่จะมีการขยายผล เชื่อมโยงข้อมูลกับสถานตรวจรถเอกชน (ตรอ.) ทำให้สามารถต่อทะเบียนภาษีได้กับรถทุกคันภายในปลายปีนี้

รวมทั้งไม่ใช่รถที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊าซ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ โดยต้องมีหลักฐานกรมธรรม์ประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 สำหรับเจ้าของรถที่สะดวกรับบริการด้วยตนเองที่สำนักงาน กรมการขนส่งทางบกได้มีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยให้บริการภายใต้มาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งที่เคาน์เตอร์สำนักงาน รวมถึงหน่วยให้บริการรับชำระภาษีนอกสำนักงาน เช่น Drive Thru for Tax ขับรถผ่านช่องทางรับชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ทั้งยังมีบริการผ่านระบบออนไลน์ลดการสัมผัสติดต่อ เช่น ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th แอปพลิเคชัน Truemoney Wallet mPAY อีกด้วย


กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม มุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาระบบขนส่งทางถนนให้มีประสิทธิภาพ โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันทันสมัย มาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาประเทศสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 สามารถสนองตอบความต้องการเดินทางของประชาชน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชนในอนาคตต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปมเหตุเผาพ่อค้าแตงโมเสียชีวิต กลางลานจอดรถ

เผยปมเหตุเผาพ่อค้าขายแตงโมกลางลานจอดรถวัดดังย่านยานนาวา ล่าสุดลูกสาวโพสต์เศร้า หลังพ่อเสียชีวิต พบประวัติผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าเมื่อ 4 ปีก่อน

ระงับทุนการศึกษาเมียนมา

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : “ทรัมป์” ระงับทุนการศึกษา นศ.เมียนมา

นักเรียนทุนเมียนมาตกใจเมื่อพบว่าทุนการศึกษาของพวกเขาถูกยกเลิกไปกะทันหัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับงบประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ที่ให้กับนักศึกษาเมียนมากว่า 400 ชีวิต ภายใต้องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือ USAID คุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าววีโอเอไทย ส่งรายงานมาจากสหรัฐ

ฆ่ายัดกระเป๋า

พบเบาะแสคนร้าย คดีฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ

พบเบาะแสคดีฆ่าสาวปริศนา ยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยเห็นรถต้องสงสัยบริเวณจุดทิ้งศพ เชื่อวนกลับมาดูว่าศพลอยน้ำหรือไม่

สาดน้ำร้อน

คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต ดำเนินคดีเพิ่ม

ตำรวจ คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต มาโรงพัก แม่ผู้เสียหายร้องไห้ถาม “ทำแบบนี้กับลูกของแม่ทำไม สำนึกผิดบ้างไหม”

ข่าวแนะนำ

ยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER

วันนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช. ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เปิดยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์”

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์” นางแบบดังระดับโลก บอกดีใจที่ได้เจอ ก่อนหารือ อุตสาหกรรมแฟชั่น หวังต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ด้าน “นาโอมิ” บอกตื่นเต้นที่จะได้ช่วยงาน ชมนายกฯ ชอบแฟชั่นที่แตกต่าง เป็นเรื่องที่ดี

Myawaddy City Fuel Shortage, Cars Have to Travel to Mae Sot to Buy

เปิดภาพรถข้ามมาเติมน้ำมันที่แม่สอด จนติดยาวเหยียด

เมียวดี 10 ก.พ.- สื่ออิสระของเมียนมาโพสต์ภาพยวดยานจำนวนมากในเมืองเมียวดี พากันข้ามพรมแดนมายังอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยในเช้าวันนี้ เพื่อเติมน้ำมัน จนรถติดขัดยาวเหยียด เฟซบุ๊กของสำนักข่าวท่าขี้เหล็ก (Tachileik News Agency) ซึ่งเป็นสื่ออิสระที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐรายงานบรรยากาศในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาในเช้าวันนี้ว่า หลังจากทางการไทยจำกัดการส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังพื้นที่พรมแดน 5 จุดในเมียนมาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยมุ่งเน้นเป้าหมายในเมียวดีและกวาดล้างแก๊งอาชญากรชาวจีน ขณะนี้ประชาชนบริเวณพรมแดนในฝั่งเมียนมากำลังประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ยวดยานจำนวนมากต้องเดินทางข้ามพรมแดนไปเติมน้ำมันที่ฝั่งไทย ชาวเมียวดีคนหนึ่งเผยว่า สามารถขับรถข้ามไปเติมน้ำมันในฝั่งไทยได้ แต่ห้ามเติมเป็นถังแกลลอน ที่ผ่านมารถในเมียวดีขับไปเติมน้ำมันที่ไทยอยู่เป็นปกติ แต่ขณะนี้มีรถจำนวนมากขึ้น และเข้าออกบ่อยครั้งขึ้น สิ่งที่ชาวเมียวดีต้องการคือน้ำมัน เมื่อเติมเสร็จก็ข้ามกลับ ชณะที่ชาวเมียวดีอีกคนคิดว่า ในอนาคตไทยอาจจะจำกัดจำนวนครั้งที่อนุญาตให้รถแต่ละคันข้ามไปเติมน้ำมัน สำนักข่าวท่าขี้เหล็กรายงานด้วยว่า รัฐมนตรีกลาโหมของไทยกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่า ไทยจะห้ามการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมียวดี ท่าขี้เหล็ก และพญาตองซู เป็นเวลา 6 เดือน.-814.-สำนักข่าวไทย