บอร์ดจีจีซีเตรียมอนุมัติไบโอฮับนครสวรรค์ ก.ย. นี้


กรุงเทพฯ  22 ส.ค.บอร์ด จีจีซี เตรียมเห็นชอบโครงการนครสวรรค์   ไบโอคอมเพล็กซ์ระยะที่ 1 วงเงิน 7.65
พันล้านเดือน ก.ย.นี้เพื่อเป็นฐานต่อยอดสู่ระยะที่ 2 ผลิตไบโอพลาสติก และอาหาร
ผลิตภัณฑ์ยา-เสริมความงาม ล่าสุด ลงนามกับฟินแลนด์ศึกษา นำ
Cellulosic Technology
มาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากชานอ้อย  คาดลงทุนรวม 4-5 หมื่นล้านบาท


 Mr. Mika Tapani Lintilä รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ
สาธารณรัฐฟินแลนด์และ
Her
Excellency Miss Satu Suikkari-Kleven
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำประเทศไทย      เป็นประธานใน
พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการนำ
Cellulosic Technology มาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากชานอ้อย  เพื่อต่อยอดโครงการนครสวรรค์  ไบโอคอมเพล็กซ์ในระยะที่ 2” 
ระหว่างบริษัท
โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ
GGC บริษัท               เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ
KTIS และ Chempolis
Limited 
เจ้าของเทคโนโลยี Cellulosic จากฟินแลนด์

นายเสกสรร
อาตมางกูร กรรมการผู้จัดการ
GGC กล่าวว่า
ตามที่
GGC และ KTIS ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันเมื่อต้นปี 2561 
เพื่อศึกษาและวางแผนก่อสร้างโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (
Nakhon Sawan Biocomplex) หรือ NBC ลงทุนฝ่ายละครึ่ง แบ่งโครงการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1เป็นโครงการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพครบวงจร
ประกอบด้วยกำลังหีบอ้อย
2.4ล้านตัน/ปี 
ผลิตเอทานอล  6 แสนลิตร/วัน โรงไฟฟ้าชีวมวล
85 เมกะวัตต์  ระบบสาธารณูปโภค มูลค่าโครงการจากการประเมินราว
7,650 ล้านบาท  โครงการระยะที่ 2ประกอบด้วย
โรงงานเคมีและพลาสติกชีวภาพ โรงงานอาหารเสริม โดยมูลค่าการลงทุนจากการประเมินราว
10,000-30,000 ล้านบาท    

ในระยะที่สองนี้  GGC และ KTIS มีแนวทางในการนำชานอ้อย  มาสร้างมูลค่าเพิ่ม  ด้วยการนำมาเป็นวัตถุดิบ
ในการผลิตผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม  และพบว่า
Chempolis เป็นผู้พัฒนา Cellulosic Technology ของตนเอง  และสามารถนำชานอ้อยมาเปลี่ยนเป็นน้ำตาลและ   สารมูลค่าสูง อาทิ Furfural Acetic Acid และ Lignin จึงสนใจในการศึกษาความเป็นไปได้
เพื่อพัฒนาไปสู่โครงการในอนาคต และเป็นที่มาของพิธีลงนามในวันนี้


นายเสกสรร
กล่าวว่า คณะกรรมการ  GGC จะพิจารณาเห็นชอบโครงการลงทุนระยะที่ 1 ในเดือนกันยายนนี้จะเริ่มก่อสร้าง
ก.พ.2562 และเริ่มผลิต ปี 2563 ในระหว่างนี้จะศึกษาโครงการระยะที่ 2
ควบคู่กันและลงทุนต่อเนื่องโดยใช้วัตถุดิบจากระยะที่ 1
ตอบรับความต้องการสินค้าชีวภาพที่เติบโตในตลาดโลด

“โครงการ NBC เป็นการลงทุนผลิตสินค้าชีวภาพ จากอ้อยของจีจีซี
จากปัจจุบันมีการผลิตจากปาล์ม ผลิตบี100 มี 2 โรงงานรวม 5 สนตัน โดยโรงงานที่ 2
กำลังผลิต 2 แสน ตันต่อปีจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ปลายเดือน ส.ค.นี้  แต่จากตลาดบี 100 ยังไม่เพียงพอต่อการขาย
ดังนั้น จึงคาดว่ายอดขายรวมของจีจีซีปีนี้จะอยู่ที่ 3.6-4 แสนตันต่อปี
โดยจะลดกำลังผลิตโรงที่ 1ลง โดยประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของโรง 2
ก็จะทำให้ต้นทุนผลิตลดลง”นายเสกสรร
กล่าว

ประพันธ์ ศิริวิริยะกุล
 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTIS กล่าวว่า
ในขณะนี้มีกลุ่มผู้ร่วมทุนมาหารอืเพื่อลงทุนต่อยอดธุรกิจชีวภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งทาง
บริษัทเรียกโครงการไบโอฮับ นครสวรรค์ว่า “ชบา” คาดจะมีเม็ดเงินลงทุนรวม 4-5
หมื่นล้านบาท นับว่าโครงการเกิดขึ้นได้หลังจาก ครม.สนับสนุนนโยบายไบโอฮับ ทั้งแก้ไขกฏหมายอ้อยและน้ำตาลทราย
ให้นำน้ำอ้อยมาผลิตเอทานอลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้ ,ให้ตั้งโรงงานหีบอ้อยใหม่ได้ในรัศมี
50 กิโลเมตรจากโรงงานเดิมหากโรงงานเดิมเห็นด้วย เพื่อป้องกันปัญหาการแย่งอ้อย
รวมทั้งให้สิทธิประโยชน์เช่นเดียวกับการสนับสนุนพื้นที่อีอีซี  ซึ่งโครงการชบานี้ จะทำให้ ใช้อ้อยเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน7.2
ล้านตัน/ปี  เกษตรกร 4-5
หมื่นครัวเรือนได้ประโยชน์ ซึ่งทางโครงการจะสนับสนุนให้เพิ่มผลผลิตอ้อย  12 ตัน/ไร่ เป็น 15 ตัน/ไร่
และมีผลทำให้ชาวไร่ตัดอ้อยส่งโรงงานเสร็จเร็วขึ้นจากเดิมเสร็จล่าช้า เดือน
พ.ค.-มิ.ย.ก็เสร็จในเดือน เม.ย. คุณภาพอ้อยจะดี รายได้เกษตรกรจะเพิ่มขึ้น-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

ข่าวแนะนำ

ตรวจสุวรรณภูมิ

นายกฯ ตรวจความพร้อมสุวรรณภูมิ รับไฮซีซั่น

นายกฯ ตรวจความพร้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับนักท่องเที่ยวไฮซีซั่น กำชับระบบอำนวยความสะดวกไม่ให้ล่าช้า กระทบแผนท่องเที่ยว

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”