24 มิ.ย. – ผู้ใช้รถไฟฟ้าเนต้าในประเทศไทย เผยอยากคืนรถ หลังเจอหลายปัญหา แต่กลัวถูกฟ้อง ด้านสภาผู้บริโภค เร่งรวบรวมข้อมูลจ่อยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม เรียกเงินเยียวยาให้กับผู้เสียหาย
หลังมีข่าวบริษัท เจ้อเจียง โฮซอน นิว เอ็นเนอร์ยี ออโตโมบิล (Zhejiang Hozon New Energy Automobile) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเนต้า เข้าสู่กระบวนการล้มละลายอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา และข่าวระบุว่าโชว์รูมหลายแห่งของเนต้า ในเซี่ยงไฮ้ ปิดตัวลง
นายจักรชัย แกนนำผู้เสียหายจากกรณีใช้รถไฟฟ้าเนต้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ใช้รถไฟฟ้าเนต้าในไทยหลายคนประสบปัญหาและยังไม่ได้รับการแก้ไขเยียวยา เข้าร้องเรียนหลายหน่วยงาน ทั้งการที่ยังไม่ได้ป้ายขาว บางรายรถเสีย แต่ไม่ได้รับการซ่อมแซม เนื่องจากไม่มีอะไหล่ ศูนย์ทยอยปิดตัวและไม่รับเคลม แต่ยังไม่ได้พบหรือพูดคุยกับผู้บริหารเนต้าในประเทศไทย เพื่อหาทางออกร่วมกัน และยิ่งมีข่าวบริษัทแม่ในประเทศจีนยื่นล้มละลาย ทำให้ไม่เหลือความเชื่อมั่น หลายคนอยากนำรถไปคืน แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีหลายขั้นาตอน รวมถึงกังวลว่าจะเป็นภาระทางคดี ขณะนี้ทำได้เพียงรอดูสถานการณ์ และรอให้ข้อมูลกับสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งรับปากจะเป็นตัวแทนยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม
ด้านโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุว่า สภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเนต้า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 68 จนถึงปัจจุบัน รวม 169 กรณี โดยมี 3 เรื่องหลักคือ ปัญหาการจดทะเบียน ขาดแคลนอะไหล่ในการซ่อมบำรุง และศูนย์บริการบางแห่งปฏิเสธการเคลม รวมถึงการปิดตัวของศูนย์บริการ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลผู้เสียหาย โดยจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการฟ้องร้อง ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาดำเนินการฟ้องคดีช่วยเหลือผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นการฟ้องคดีแบบกลุ่ม เมื่อได้ข้อสรุปข้อหาที่จะฟ้องจะเชิญผู้เสียหาเข้าให้ข้อมูล จากนั้นจะยื่นฟ้องภายใน 60 วัน เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากอาจต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูลระยะหนึ่ง
ขณะที่วานนี้ สคบ. เข้าไปที่ออฟฟิศของเนต้า ประเทศไทย ย่านสุขุมวิท เพื่อขอความชัดเจนในเรื่องการฟื้นฟูกิจการหรือการแจ้งล้มละลายของบริษัทแม่ที่จีน ว่าจะมีผลต่อประเทศไทยอย่างไร รวมถึงสอบถามเรื่องของการดูแลลูกค้า การจัดหาอะไรอุปกรณ์ อะไหล่ซ่อมรถ พร้อมสั่งการให้ทางเนต้าส่งมอบกล่อง CDU จำนวน 32 ชิ้น ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ และให้เดือนต่อๆ ไป ให้ส่งมอบขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 50 ชิ้น จนกว่าจะส่งมอบให้กับลูกค้าครบ ส่วนมาตรการเยียวยาอื่นๆ ยังไม่มีความชัดเจนหรือมีข้อตกลงใดๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า นายซูน เปาหลง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เดินทางไปประเทศจีนแล้วเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้ ซึ่งในบริษัท เนต้า ประเทศไทย เหลือผู้บริหารคนจีนเพียง 2 คน ส่วนจำนวนพนักงานในขณะนี้ รวมทั้งคนไทยและคนจีนมีประมาณ 30 กว่าคน ที่ผ่านมาทยอยลาออกไปอย่างต่อเนื่อง และสิ้นเดือนนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะได้รับเงินเดือนปกติหรือไม่อย่างไร ต้องรอลุ้นกันต่อไป
เนต้า ออโต้ ประเทศไทย ได้เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 3.0 และ 3.5 ของภาครัฐ กรมสรรพสามิตได้จ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการอีวี 3.0 ให้กับเนต้าไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท และสรรพสามิตระงับการจ่ายอุดหนุนไว้ 400 ล้านบาท ขณะเดียวกันเนต้าค้างการผลิตชดเชยรถอีวีตามาตรการในอัตรา 1 ต่อ 1.5 อีก 19,000 คัน หลังจากที่ผลิตออกมาได้เพียง 4,000 คันเท่านั้น ดังนั้น จึงถือว่าไม่ทำตามเงื่อนไข สรรพสามิตจึงชะลอจ่ายเงินอุดหนุนออกไปก่อน พร้อมทั้งหากพิจารณาแล้วบริษัทไม่สามารถผลิตได้ตามเงื่อนไขเลย บริษัทก็ต้องจ่ายเงินชดเชยที่รัฐให้ไปทั้งหมด
ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้สรรพสามิตปรับเงื่อนไขการติดตามการผลิตรถอีวีชดเชย มาตรการอีวี 3.0 และ 3.5 โดยให้ทุกบริษัทที่ลงนามสัญญาแล้วต้องส่งรายงานแผนการผลิตทุก 2 เดือน จากเดิมกรมมีอำนาจตรวจสอบการผลิตชดเชยได้หลังจากที่หมดมาตรการแล้วเท่านั้น ซึ่งมองว่าไม่ทันการณ์ ทั้งนี้ การปรับเงื่อนไขดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ และต้องส่งเสนอคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ในเร็วๆ นี้ .-สำนักข่าวไทย