กรมรางเผยวันหยุดยาวคนแห่ใช้ระบบรางทะลุ 1.2 ล้านคน-เที่ยว

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – วันหยุดยาวคึกคัก! คนแห่ใช้ระบบรางทะลุ 1.2 ล้านคน-เที่ยว รถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยาย ทำสถิติใหม่นับตั้งแต่เปิดทดลองให้บริการ


กรมการขนส่งทางราง เผยวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-3 มิถุนายน 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1,232,061 คน-เที่ยว โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย มีผู้ใช้บริการจำนวน 23,159 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดทดลองให้บริการฟรี ภาพรวมมีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ 1 ครั้ง และมีอุบัติการณ์ในเขตระบบรถไฟฟ้า 1 ครั้ง พร้อมทั้งประสานผู้ให้บริการระบบรางอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยตามแผนอำนวยความสะดวกฯ ของกระทรวงคมนาคม

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (31 พฤษภาคม 68) ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-3 มิถุนายน 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,232,061 คน-เที่ยว แบ่งเป็นรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 76,538 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และรถไฟชานเมือง จำนวน 1,155,523 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้


1.รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท.ให้บริการรวม 213 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 76,538 คน-เที่ยว แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 32,943 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 43,595 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 41,665 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 34,873 คน-เที่ยว โดยพบว่าสายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 27,791 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 15,042 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 12,749 คน-เที่ยว) รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ใช้บริการ 19,299 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 10,585 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,714 คน-เที่ยว) สายเหนือ 14,685 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 7,864 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 6,821 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 9,877 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,582 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,295 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 4,886 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 2,592 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 2,294 คน-เที่ยว)

2.ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,806 เที่ยว มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,155,523 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 57,827 คน-เที่ยว
2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 28,777 คน-เที่ยว
2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 232 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 49,258 คน-เที่ยว
2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 355 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 306,830 คน-เที่ยว
2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,102 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 597,231 คน-เที่ยว
2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 7,876 คน-เที่ยว
2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 39,081 คน-เที่ยว
2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 68,643 คน-เที่ยว โดยมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีเมืองทองธานี-ทะเลสาบเมืองทองธานี จำนวน 23,159 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดทดลองให้บริการฟรี (นิวไฮ) ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวันหยุดและเป็นวันสุดท้ายที่จัดงานแสดงสินค้า อาหารและเครื่องดื่มระดับโลก THAIFEX Anuga 2025
ที่เมืองทองธานี Challenger 1-3, Hall 5-12

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับด้านความปลอดภัย ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟจำนวน 1 ครั้ง เมื่อเวลา 08.35 น. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 4341 (วงเวียนใหญ่-มหาชัย) เฉี่ยวชนคนที่กระโดดลงจากท้ายรถกระบะรับส่งพนักงานที่วิ่งตัดหน้าขบวนรถไฟในทางลักผ่าน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31/4-5 ระหว่างที่หยุดรถบ้านขอม-ป้ายหยุดรถคลองจาก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีอุบัติการณ์ในเขตระบบรถไฟฟ้า1 ครั้ง เมื่อเวลา 17.13 น. มีป้ายโฆษณาปลิวมากีดขวางอยู่บนพื้นที่ทางรถไฟก่อนเข้าสถานีบางเขนฝั่งขาออกเมืองของรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) สายธานีรัถยา ขบวนรถไฟไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการลงพื้นที่เก็บสิ่งกีดขวางออกจากรางเรียบร้อย และขบวนรถสามารถกลับมาให้บริการได้ตรงตามตารางเวลาเมื่อเวลา 18.15 น.


ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานผู้ให้บริการระบบรางต่างๆ ในการกวดขันและเน้นย้ำการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ที่ ขร. ได้ประสานไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานก่อนปฏิบัติหน้าที่เดินรถขนส่งทางราง 34 คน ไม่พบผู้ปฏิบัติงานมีระดับแอลกอฮอล์ (ค่าเป็นศูนย์) จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางรถไฟ/รถไฟฟ้า เพิ่มเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบความปลอดภัยในขบวนรถไฟ/รถไฟฟ้ารวมทั้งบริเวณพื้นที่สถานี พร้อมทั้งประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่/อาสาสมัครประจำจุดตัดทางลักผ่านโดยมีการประสานงานกับพนักงาน รฟท. พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่าน และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณหรือเครื่องกั้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟ/สำนักข่าวไทย-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]