กรมรางเผยวันหยุดยาวคนแห่ใช้ระบบรางทะลุ 1.2 ล้านคน-เที่ยว

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย. – วันหยุดยาวคึกคัก! คนแห่ใช้ระบบรางทะลุ 1.2 ล้านคน-เที่ยว รถไฟฟ้าสีชมพูส่วนต่อขยาย ทำสถิติใหม่นับตั้งแต่เปิดทดลองให้บริการ


กรมการขนส่งทางราง เผยวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-3 มิถุนายน 2568 มีผู้ใช้บริการระบบราง รวม 1,232,061 คน-เที่ยว โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย มีผู้ใช้บริการจำนวน 23,159 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดทดลองให้บริการฟรี ภาพรวมมีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟ 1 ครั้ง และมีอุบัติการณ์ในเขตระบบรถไฟฟ้า 1 ครั้ง พร้อมทั้งประสานผู้ให้บริการระบบรางอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยตามแผนอำนวยความสะดวกฯ ของกระทรวงคมนาคม

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (31 พฤษภาคม 68) ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดต่อเนื่องในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-3 มิถุนายน 2568 มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,232,061 คน-เที่ยว แบ่งเป็นรถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 76,538 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และรถไฟชานเมือง จำนวน 1,155,523 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้


1.รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท.ให้บริการรวม 213 ขบวน มีผู้ใช้บริการจำนวน 76,538 คน-เที่ยว แบ่งเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ 32,943 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 43,595 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 41,665 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 34,873 คน-เที่ยว โดยพบว่าสายใต้มีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 27,791 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 15,042 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 12,749 คน-เที่ยว) รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ มีผู้ใช้บริการ 19,299 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 10,585 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,714 คน-เที่ยว) สายเหนือ 14,685 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 7,864 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 6,821 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 9,877 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 5,582 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 4,295 คน-เที่ยว) และสายแม่กลองและมหาชัย 4,886 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 2,592 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 2,294 คน-เที่ยว)

2.ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 2,806 เที่ยว มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,155,523 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 174 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 57,827 คน-เที่ยว
2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 28,777 คน-เที่ยว
2.3 รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 232 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 49,258 คน-เที่ยว
2.4 รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 355 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 306,830 คน-เที่ยว
2.5 รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,102 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 597,231 คน-เที่ยว
2.6 รถไฟฟ้า สายสีทอง ให้บริการ 217 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 7,876 คน-เที่ยว
2.7 รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 39,081 คน-เที่ยว
2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ให้บริการ 216 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 68,643 คน-เที่ยว โดยมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีเมืองทองธานี-ทะเลสาบเมืองทองธานี จำนวน 23,159 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดทดลองให้บริการฟรี (นิวไฮ) ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวันหยุดและเป็นวันสุดท้ายที่จัดงานแสดงสินค้า อาหารและเครื่องดื่มระดับโลก THAIFEX Anuga 2025
ที่เมืองทองธานี Challenger 1-3, Hall 5-12

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับด้านความปลอดภัย ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟจำนวน 1 ครั้ง เมื่อเวลา 08.35 น. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 4341 (วงเวียนใหญ่-มหาชัย) เฉี่ยวชนคนที่กระโดดลงจากท้ายรถกระบะรับส่งพนักงานที่วิ่งตัดหน้าขบวนรถไฟในทางลักผ่าน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 31/4-5 ระหว่างที่หยุดรถบ้านขอม-ป้ายหยุดรถคลองจาก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีอุบัติการณ์ในเขตระบบรถไฟฟ้า1 ครั้ง เมื่อเวลา 17.13 น. มีป้ายโฆษณาปลิวมากีดขวางอยู่บนพื้นที่ทางรถไฟก่อนเข้าสถานีบางเขนฝั่งขาออกเมืองของรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) สายธานีรัถยา ขบวนรถไฟไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการลงพื้นที่เก็บสิ่งกีดขวางออกจากรางเรียบร้อย และขบวนรถสามารถกลับมาให้บริการได้ตรงตามตารางเวลาเมื่อเวลา 18.15 น.


ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานผู้ให้บริการระบบรางต่างๆ ในการกวดขันและเน้นย้ำการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ที่ ขร. ได้ประสานไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ผู้ปฏิบัติงานก่อนปฏิบัติหน้าที่เดินรถขนส่งทางราง 34 คน ไม่พบผู้ปฏิบัติงานมีระดับแอลกอฮอล์ (ค่าเป็นศูนย์) จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางรถไฟ/รถไฟฟ้า เพิ่มเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบความปลอดภัยในขบวนรถไฟ/รถไฟฟ้ารวมทั้งบริเวณพื้นที่สถานี พร้อมทั้งประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่/อาสาสมัครประจำจุดตัดทางลักผ่านโดยมีการประสานงานกับพนักงาน รฟท. พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่าน และไม่ฝ่าฝืนสัญญาณหรือเครื่องกั้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟ/สำนักข่าวไทย-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]