นนทบุรี 2 พ.ค. – กรมทางหลวงเปิดวิ่งฟรีมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงสุดสัปดาห์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ขับง่าย ใกล้กว่าเดิม คาดจะเปิดเต็มรูปแบบได้ในเดือนตุลาคมนี้
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า กรมทางหลวงเร่งดำเนินการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี เพื่อเติมเต็มโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทางและขนส่งสินค้าจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี และภาคตะวันตกของประเทศ ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยในเวทีโลก และตอกย้ำนโยบาย “คมนาคมเพื่อโอกาสของประเทศไทย”
วันนี้กรมทางหลวงจึงเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่แล้วเสร็จหรือสามารถให้บริการได้ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเริ่มต้นด้วยการเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่- กาญจนบุรี ตลอดสายระยะทาง 96 กิโลเมตร เป็นการชั่วคราว จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ คือ ด่านกาญจนบุรี ด่านนครปฐมตะวันตก และด่านบางใหญ่ ซึ่งเปิดให้ใช้บริการในทุกวันศุกร์ เวลา 15.00 น. ถึงวันจันทร์เวลา 09.00 น. โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง เริ่มตั้งแต่วันนี้คือวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 โดยจะสามารถใช้ได้เฉพาะรถเล็ก 4 ล้อ และจำกัดความเร็วที่ 80 กม./ชม. คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จะเดินทางจากบางใหญ่ถึงจังหวัดกาญจนบุรี และแบ่งเบาภาระจากถนนหลวงสายหลักได้ราว 20-30% ทั้งนี้ คาดว่าจะเปิดเต็มรูปแบบได้ในเดือนตุลาคม 2568 นี้ และจะเปิดให้วิ่งฟรีไปจนถึงช่วงปีใหม่ ก่อนที่จะมีการเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์สายกาญจนบุรี ในช่วงหลังปีใหม่ ในช่วงต้นปี 2569
การเปิดให้ใช้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในช่วงสุดสัปดาห์ จะช่วยอำนวยความสะดวกและลดระยะเวลาเดินทางให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ที่จะสามารถเดินทางในช่วงวันหยุดได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี และภาคตะวันตก ได้เป็นอย่างดี ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศตามมา
ที่สำคัญจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรสู่ภาคตะวันตกและภาคใต้บนทางหลวงหมายเลข 338 (ถนนบรมราชชนนี) ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ทางหลวงหมายเลข 323 (ถนนแสงชูโต) และทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระรามที่ 2) ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะทางอากาศ และเป็นการประชาสัมพันธ์การใช้เส้นทางเพื่อรองรับการเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2568 อีกด้วย สำหรับการก่อสร้างจุดพักริมทาง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการปรับพื้นที่ หากจะเริ่มประมูลการก่อสร้างได้เมื่อไรจะมีการแจ้งให้ทราบแน่นอน
ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุก้อนปูนหล่นใส่รถเสียชีวิต ใต้ทางต่างระดับพระราม 2 คือ นายอำนาจ อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ทางกรมทางหลวงได้เข้าพื้นที่และเข้าเยี่ยมนายอำนาจ ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว และยืนยันกรมทางหลวงจะเยียวยาครอบครัวนายอำนาจอย่างเต็มที่ตามระเบียบของกระทรวงคมนาคมต่อไป.-513-สำนักข่าวไทย