กรุงเทพ 23 เม.ย. – “กฤชนนท์” โต้กลับ “โฆษก พปชร.” ปล่อยข่าวมั่ว โยงอุบัติเหตุรถบัสหวังปั่นกระแส ย้ำชัดรถที่เกิดเหตุไม่ใช่ระบบก๊าซ NGV ฟาดให้ข้อมูลแบบไร้วุฒิภาวะ แถมสร้างเฟคนิวส์บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำประชาชนเข้าใจผิดทั้งประเทศ ยัน “คมนาคม” เดินเครื่องยกระดับขนส่งสาธารณะ ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เน้นย้ำความปลอดภัยสูงสุด
นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมากล่าวหารัฐบาลและกระทรวงคมนาคมว่า เพิกเฉย และไม่สนใจความเดือดร้อนหรือความสูญเสียของประชาชนในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหารถโดยสารประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั้น โดยการออกมากล่าวหาของโฆษก พปชร. ดังกล่าว ถือว่าไม่ทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เป็นความจริง เป็นข้อมูลมั่วในหลายเรื่อง ไม่ทราบว่า ไปรับข้อมูลมาจากที่ใด เพราะการกระทำเช่นนี้ อาจทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เรียกได้ว่า เป็นการสร้างข่าวปลอม (เฟคนิวส์) ในสังคมไทย
ทั้งนี้ ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคม พร้อมรับฟังทุกแนวคิด และข้อเสนอแนะดี ๆ ของทุกฝ่าย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่บิดเบือนข้อมูล หรือสร้างความเสียหาย และสร้างความเข้าใจผิดต่อพี่น้องประชาชน อย่างเช่นเดียวกับการออกมากล่าวหาของ พล.ต.ท.ปิยะในครั้งนี้ ที่ไม่ได้พิจารณาเรื่องราวโดยละเอียด ไม่สมกับการเคยปฏิบัติวิชาชีพตำรวจมาก่อน ซึ่งนับว่า การกระทำดังกล่าว น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีวุฒิภาวะทางสังคม และไม่ได้คำนึงถึงประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนเป็นลำดับต้น ๆ ด้วย
นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า การที่ พล.ต.ท.ปิยะ หยิบยกเอากรณีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุกและเกิดเพลิงลุกไหม้ บริเวณถนนหลวงหมายเลข 304 (สี่แยกกบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว กม. 208+600 ม) ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มาสร้างข้อมูลเท็จ โดยระบุว่า รถบัสที่เกิดอุบัติเหตุเกิดไฟไหม้ มีต้นเหตุมาจากการติดตั้งระบบก๊าซ NGV ซึ่งเรื่องนี้ ขอชี้แจงว่า จากการรายงานของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พบว่า รถคันดังกล่าว เป็นรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดดีเซล (ไม่ใช่ NGV) และอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ส่วนเรื่องรถโดยสารสาธารณะต้องติดตั้งลิ้นปิด-เปิดอัตโนมัติ (โซลินอยด์วาล์ว) ก็ดำเนินการติดตั้งอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนการคมนาคมของประเทศไทยให้ดีขึ้น โดยตลอดระยะเวลาในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำงานกันเต็มที่มาอย่างต่อเนื่องในการป้องกัน และกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในทุกมิติ เพื่อแก้ไขปัญหารถโดยสารประสบอุบัติเหตุให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของพี่น้องประชาชน เพื่อยกระดับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างมีประสิทธิภาพ. -513-สำนักข่าวไทย