ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายแนวคิด “เก็บค่าธรรมเนียมรถติด” 50 บาท

กรุงเทพ 22 ต.ค. – ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิด “เก็บค่าธรรมเนียมรถติด” คันละ 50 บาท เพื่อเติมกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อทุกคนได้ใช้ “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย”


ภายหลังการประกาศเดินหน้านโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” อย่างจริงจังของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยนโยบายนี้ริ่เริ่มมาตั้งแต่รัฐบายของอดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งความชัดเจนของนโยบายนี้จากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ที่ได้ประกาศเดินหน้าแน่นอนทุกเส้นทาง พร้อมกำหนดการที่ชัดเจนภายใน “เดือนกันยายน 2568”

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้เริ่มต้นศึกษาแนวคิดการจัดเก็บ “ค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge)” ในพื้นที่กรุงเทพฯ ย่านสุขุมวิท รัชดาภิเษก และ สีลม เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด จูงใจให้ประชาชนใช้บริการสาธารณะที่ราคาถูกและเข้าถึงได้เป็นทางหลัก โดยพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณการจราจรราว 7 แสนคันต่อวัน แนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจจากประเทศที่มีการดำเนินการและประสบความสำเร็จ เช่น อังกฤษ สิงคโปร์ อิตาลี สวีเดน นอร์เวย์ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา รายได้จากการจัดเก็บนี้ จะนำมารวมอยู่ในกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยจะจัดเก็บในอัตราเพิ่มขึ้น อาทิ ใน 5 ปีแรกจัดเก็บคันละ 50 บาท คาดว่าจะได้รายได้ส่วนนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี และจะนำเงินรายได้ทั้งหมดไปซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนจากภาคเอกชนเพื่อรัฐบาลจะได้เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าคนละ 20 บาทตลอดสาย


จากการลงพื้นที่ของทีมข่าวสำนักข่าวไทย ย่านถนนรัชดาภิเษกซึ่งเป็นถนนที่มีการจราจรหนาแน่นและเป็นหนึ่งในเส้นทางที่จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมรถติด พบว่า ประชาชนที่ใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำ แสดงความคิดเห็น ว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวเพราะจะทำให้คนที่ทำมาหากินบนถนนเส้นนี้ได้รับความเดือดร้อนจากค่าธรรมเนียมที่เก็บวันละ 50 บาท ซึ่งหากต้องมาขายของทุกวันบนถนนเส้นนี้ จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นถึงเดือนละ 1,500 บาท ดังนั้นจึงไม่เห็นกับนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลควรจะหาเงินจากแหล่งอื่นมาทดแทนการเก็บค่าธรรมเนียมรถติดจะดีกว่ามาเก็บกับประชาชน

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝ่ายโยธาและจราจร ให้สัมภาษณ์ในรายการนาทีลงทุนทางช่อง 9 กด 30 ว่า เห็นด้วยที่จะทำให้ค่ารถไฟฟ้าถูกลงคนละ 20 บาทตลอดสาย เหมือนกับที่ทำได้ในรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีชมพู และสายสีเหลือง หากจะเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายทาง รฟม.จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้เอกชนปีละ 8 พันล้านบาท ซึ่งทาง รฟม.มีเงินอยู่ประมาณ 24,000 ล้านบาท จากส่วนแบ่งรายได้สัมปทานซึ่งจะจ่ายชดเชยได้เพียง 2-3 ปีเท่านั้น ดังนั้นต้องดูว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมรถติดหรือจำเป็นต้องซื้อสัมปทานรถไฟฟ้ามูลค่าประมาณ 2 แสนล้านบาทคืนหรือไม่ เพราะรถไฟฟ้าบางสายไม่จำเป็นต้องซื้อคืนเพราะใกล้จะหมดอายุสัมปทาน สำหรับนโยบายนี้มีการพูดถึงมานานแล้วแต่ไม่มีใครกล้าทำเพราะจะกระทบกับคะแนนเสียง นอกจากนี้หากมีนโยบายนี้ออกมาจริงๆ จะเก็บค่าธรรมเนียมรถติดอย่างไร เพราะกรุงเทพฯ มีตรอกซอกซอยจำนวนมาก คนที่รู้เส้นทางก็ต้องหลีกเลี่ยงไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียม ส่วนคนที่มีบ้านอยู่ในถนนที่จะเก็บค่าธรรมเนียม จะทำอย่างไร และจะเก็บค่าธรรมเนียมช่วงไหน ต้องไปดูรายละเอียดและข้อสรุปอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่า นี่เป็นแนวคิดเท่านั้นและพร้อมหารือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อหาแหล่งเงินทุนมาใช้ดำเนินนโยบายนี้ ซึ่งจะมีหลายแนวทางในการระดมทุน ข้อเสนอที่จะเก็บค่าธรรมเนียมขับรถเข้าเมืองในช่วง 5 ปีแรก 40-50 บาทต่อครั้ง “นี่เป็นเพียงหนึ่งในแนวทางที่กระทรวงคมนาคมเสนอมาเท่านั้น สถานะในปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด” ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก