กรงเทพฯ 6 ก.ย.-สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ
ป๋วย อึ๊งภากรณ์เผยงานวิจัย พฤติกรรมการกู้ของคนไทย พบว่า หนี้รถจักรยานยนต์ยอมทิ้งรถและเป็นหนี้เสียถึงร้อยละ
37 ขณะที่วัยรุ่นและผู้สูงอายุเป็นหนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคลน่าเป็นห่วงที่สุด
นางโสมรัศมิ์ จันทรัตน์ จันทร์วิไลศรี
หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ กล่าวว่า จากงานวิจัยเรื่อง “X- Ray พฤติกรรมการกู้ของคนไทยผ่าน
Big Data ของเครดิตบูโร
ซึ่งเป็นข้อมูลตั้งแต่ปี 2552 – เดือนกรกฎาคม 2559 พบว่าโดยเฉลี่ยคนไทยมีสัญญาเงินกู้ 3 สัญญาและมีจำนวนสถาบันการเงินที่ใช้
2 แห่ง แต่มี 1 ใน 6 ของคนไทย
มีเงินกู้ถึง 5 สัญญาและ 1 ใน 10 ที่ใช้สถาบันการเงิน 5 แห่ง จากข้อมูลพบว่า
หนี้รถยนต์ และ หนี้รถจักรยานยนต์เป็นหนี้เสียถึงร้อยละ 24
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการรถคันแรกที่กระตุ้นให้ผู้กู้ที่ยังไม่พร้อมเข้าสู่ตลาดรถยนต์
ส่วนสินเชื่อรถจักรยานยนต์พบว่าผู้กู้ถึงร้อยละ 37 เป็นหนี้เสีย
โดยสันนิษฐานว่าเป็นผลมาจากรายได้ที่ไม่แน่นอน
เพราะรายได้ขึ้นอยู่กับราคาสินค้าเกษตร ประกอบกับสินเชื่อรถจักรยานยนต์เงินดาวน์ต่ำ
ทำให้เมื่อไม่มีเงินผ่อนผู้กู้ก็ยอมทิ้งรถ
ส่วนกลุ่มผู้กู้ที่น่าจับตามองมากที่สุด คือ
กลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปีและกลุ่มวัยหลังเกษียณที่มีหนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคลสูงและสัดส่วนหนี้เสียมากขึ้นในกลุ่มผู้กู้ที่มีหลายสัญญากับหลายสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ผู้กู้สินเชื่อส่วนบุคคลที่กู้กับนอนแบงก์มีคุณภาพของหนี้ที่ต่ำกว่าสถาบันการเงิน
ตรงกันข้ามกับสินเชื่อบัตรเครดิต ที่ผู้มีบัตรเครดิต 1 ใบ กับสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียว
เป็นกลุ่มที่น่าห่วงมากที่สุด
เนื่องจากสะท้อนว่าศักยภาพในการหารายได้และการชำระเงินต่ำ
ทำให้ไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้หลายใบ
“ขณะนี้กำลังติดตามมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ปรับลดวงเงินการให้สินเชื่อ
บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลว่าจะส่งผลอย่างไรต่อภาวะภาวะหนี้ครัวเรือนในอนาคต
เท่าที่เห็นมองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมที่จะดูแลสถานการณ์หนี้ครัวเรือนได้
“นางโสมรัศมิ์ กล่าว
ด้านนางสาวอัจจนา ล่ำซำ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัย
กล่าวว่า
จากผลวิจัยพบว่าการใช้สินเชื่อบ้านและบัตรเครดิตในกลุ่มพวกกู้ชนบทยังมีอยู่น้อย
แม้ว่าจะเป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพดี ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในการใช้และการเข้าถึง
เห็นว่า ควรส่งเสริมการเข้าถึงสินเชื่อบ้านและบัตรเครดิตในชนบท
เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริโภค การทำธุรกิจ ให้คนในชนบท
ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจ.- สำนักข่าวไทย
