“ไทย-ภูฏาน” ประกาศความสำเร็จเปิดเจรจา FTA ตั้งเป้าเพิ่มยอด 120 ล้านเหรียญในปี 2025

ภูฏาน 18 พ.ค.-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ปลื้มผลการหารือกับนายกรัฐมนตรีภูฏาน ยินดีไทย-ภูฏาน ประกาศเปิดเจรจา FTA อย่างเป็นทางการ มั่นใจหนุนเพิ่มการค้าสองฝ่าย เดินสู่เป้าหมาย 120 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2025 พร้อมขอช่วยหนุนนักลงทุนไทย ลงทุนในโครงการ “เกเลฟู มายฟูลเนส ซิตี้” ยันไทยยินดีหนุนนักท่องเที่ยวไปเที่ยวภูฏานเพิ่มขึ้น


นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับนายเชริง ท็อปเกย์ นายกรัฐมนตรีภูฏาน ว่า ท่านนายกรัฐมนตรีภูฏานยินดีที่ไทยและภูฏานได้ลงนามในเอกสารขอบเขตสำหรับการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ภูฏาน และประกาศเปิดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับภูฏานอย่างเป็นทางการ โดยไทยเห็นว่า ความตกลง FTA ไทย – ภูฏาน จะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มพูนปริมาณการค้าระหว่างกัน ลดอุปสรรคกีดกันการค้า เพื่อขยายโอกาสและอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และ ความตกลง FTA ไทย – ภูฏาน จะมีส่วนขับเคลื่อนการค้าให้บรรลุเป้าหมายที่มูลค่า 120 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยให้เร่งรัดสรุปผลการเจรจา FTA ภายในปี 2025

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีภูฏานแจ้งว่า ชาวภูฏานเห็นว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ และชื่นชอบสินค้าไทย ขณะที่สินค้าเกษตรภูฏานเป็นสินค้าออร์แกนิคระดับ High End ที่ได้จากธรรมชาติ ยินดีช่วยสนับสนุนการประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้าเกษตรภูฏานในซุปเปอร์มาเก็ตของไทย และยังได้หารือเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง Gelephu Mindfulness City (เกเลฟู มายฟูลเนส ซิตี้) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูฏาน ติดกับประเทศอินเดีย ซึ่งมีแผนเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเป็นประตูสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูฏาน และมีแผนการก่อสร้างโครงการใหญ่ อาทิ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศแห่งใหม่ โรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ เส้นทางคมนาคม และจะเป็นเมืองอัจฉริยะแห่งแรกของภูฏาน โดยไทยเห็นว่า โครงการก่อสร้าง Gelephu Mindfulness City มีจุดเด่นหลายประการที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ อาทิ ที่ตั้งที่เป็นจุดยุทธศาตร์ติดแนวชายแดนอินเดีย และการให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าและรักษาสิ่งแวดล้อม


นอกจากนี้ ยังขอให้ภูฏานแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จูงใจ และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจและการลงทุนในโครงการดังกล่าว โดยปัจจุบัน ไทยมีนโยบายส่งเสริมนักธุรกิจและนักลงทุนให้เข้าไปประกอบธุรกิจในต่างประเทศ
ซึ่งโครงการดังกล่าวมีความน่าสนใจและภาคธุรกิจไทยมีศักยภาพที่สามารถร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อพัฒนาโครงการก่อสร้างแห่งนี้ โดยไทยได้ชื่นชมแนวทางปฏิบัติในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของภูฏาน ซึ่งทำให้ภูฏานประสบความสำเร็จในการเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยยินดีสนับสนุนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของภูฏานในไทยให้ด้วย

ปัจจุบันไทยกับภูฏานมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับพระราชวงศ์จนถึงประชาชน รวมทั้งมีพระพุทธศาสนาและความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมเป็นสิ่งเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-ภูฏาน ในหลากหลายมิติทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาศักยภาพด้านการเกษตร และหัตถกรรม

ทั้งนี้ ภูฏานเห็นว่า ไทยกับภูฏานมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และไทยถือเป็น Gateway ของชาวภูฏาน โดยชาวภูฏานจำนวนมากเดินทางมาเยือนไทยเพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ ทำธุรกิจ และท่องเที่ยว และสนใจเข้าร่วมงาน Tourism Festival ในไทย เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของภูฏานในไทย และไทยยินดีกับความก้าวหน้าของภูฏานในการก้าวสู่ประเทศกำลังพัฒนาอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2566 มั่นใจว่า ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ภูฏานจะบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2577 ที่จะถึงนี้ .-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ