นนทบุรี 8 พ.ค. -2 รมช.พาณิชย์ แบ่งงานลงตัว เชื่อต่างพรรคดูแลงานไม่ร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา ชี้นโยบายแรงงานขึ้น 400 บาททั่วประเทศ ยอมรับกระทบต้นทุนสินค้าบ้าง แต่กระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนรับมือสินค้าไว้แล้ว ย้ำทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลขึ้น 400 บาท ต่างชาติจะได้มากกว่าคนไทยทางกระทรวงแรงงานมีแผนและมาตรการไว้แล้วเช่นกัน
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ ได้ร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ครบรอบ 82 ปี จากนั้นได้มีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ระบุถึงการแบ่งงานในส่วนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ทั้งสองคน โดยนายนพิณทรกล่าวว่าได้มีการหารือร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้วโดยหน่วยงานที่ตนยังคงรับผิดชอบคือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญาและสถาบัน GIT ขณะที่นายสุชาติ จะรับผิดชอบกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา(องค์การมหาชน) ITD โดยยืนยันได้ว่า กระทรวงพาณิชย์ที่มีรัฐมนตรีจาก 3 พรรคการเมือง ทั้งเพื่อไทย ภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ เป็นกระทรวงเดียวที่แม้จะมาจากต่างพรรคการเมือง แต่การทำงานจะเป็นหนึ่งเดียวกันและจะร่วมกันทำงาน
โดยเฉพาะตนกับนายสุชาติรู้จักคุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดี สามารถทำงานประสานกันได้ ทำอย่างไรให้กระทรวงพาณิชย์เดินไปข้างหน้า และทำงานให้กับบ้านเมืองได้ โดยเราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะมาจากต่างพรรคก็เป็นหนึ่งเดียวในการทำงานได้และสำหรับงานในส่วนของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จากเดิมที่ตนเคยดูแลและมอบให้นายสุชาติเป็นผู้ดูแลต่อนั้น เชื่อว่าจะเดินหน้าไปได้ด้วยดี เชื่อว่านายสุชาติเองก็ผ่านงานมา หลายอย่าง เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน รู้งานต่างประเทศได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะประเทศไหนต้องมีแรงงานอย่างไรเข้าไป ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเนื้องานก็น้องๆของกระทรวงแรงงาน เชื่อว่านายสุชาติจะสามารถนำกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี ในการสร้างผลงานให้กับกระทรวงพาณิชย์
นายสุชาติ กล่าวว่า ขอบคุณทั้ง 2 คน ทั้งนายภูมิธรรม และนายนรินทร ที่ให้โอกาสได้ทำงานในกระทรวงพาณิชย์ เรื่องหน่วยงานที่แบ่ง เหมือนพี่น้องกัน ไม่ใช่เรื่องยากเพราะตนถือเป็นน้องเล็ก เป็นน้องใหม่ของกระทรวงต้องเรียนรู้งาน พร้อมจะทำงานสนองนโยบายรัฐบาลสนองนโยบายของท่านนายกฯและท่านรองนายกภูมิธรรม โดยได้พูดคุยกันแล้วว่าทุกกรมทำงานร่วมกันหมดเป็นหนึ่งเดียวกันไม่มองเรื่องพรรคการเมืองแต่จะมองเรื่องการดูแลปากท้องพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ดูแลให้ผู้ประกอบการไทยออกไปในต่างประเทศได้ เชื่อว่าเศรษฐกิจของชาติจะดีได้ กระทรวงพาณิชย์จะต้องเป็นหลัก
ส่วนเรื่องของค่าแรง 400 บาททั่วประเทศจากนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ไม่หนักใจอะไรเพราะจะต้องดูแลในเรื่องของปากท้องประชาชนปากน้องของพี่ทั้งประชาชน ตอนอยู่กระทรวงแรงงานก็ดูในเรื่องของความมั่นคงและความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงาน เรื่องของกระทรวงพาณิชย์เป็นเรื่องของภาพรวมประเทศ เรื่องของเศรษฐกิจนำเข้าส่งออกเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันค่าครองชีพของแต่ละคนของแต่ละวัน ส่วนนี้เป็นหลักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้นโยบายไว้แล้วว่าจะต้องทำให้ทุกอย่างมีความสมดุลประชาชนร่วมถึงคู่ค้าอยู่ได้
อย่างไรก็ตาม โดยค่าแรง 400 บาทถือเป็นนโยบายของรัฐบาลก็จำเป็นที่จะต้องปรับเข้าหากันเชื่อว่ามีวิธีการดูแล ซึ่งทั้งนายกฯและรองนายกภูมิธรรมดูแลในเรื่องของค่าครองชีพประชาชนอยู่แล้ว หากกลัวค่าครองชีพสูงขึ้น ก็มีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว และในส่วนของภาคเอกชนเชื่อว่าหากค่าแรงขึ้นทำให้ไทยสามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้ ค่าครองชีพก็จะต้องมีการดูแล
นายนภินทรกล่าวเพิ่มเติมค่าแรงงานที่ขึ้น 400 บาท ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.นี้ ยอมรับว่ากระทบต่อต้นทุนสินค้าบ้างและสินค้าบางรายการจำเป็นต้องปรับขึ้นไป แต่ไม่ใช่ว่ากระทรวงพาณิชย์จะให้สินค้าขึ้นแบบไร้ทิศทาง เพราะต้นทุนใดที่ขึ้นจริงก็จำเป็นต้องให้ขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง แต่หากวิเคราะห์ออกมาแล้วไม่ได้กระทบมากก็ไม่จำเป็นสินค้าจะขึ้น โดยยังมีเวลาพิจารณาอีกหลายเดือนกว่าเงินค่าแรงงานจะประกาศใช้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนรองรับเอาไว้แล้ว.-514-สำนักข่าวไทย