กรุงเทพฯ 27 มี.ค.-ตลท. ระบุ “แบบ 56-1 One Report” เป็นข้อมูลสำคัญช่วยให้นักลงทุนเข้าใจกลยุทธ์ ทิศทางการดำเนินธุรกิจ แนวทางการบริหารความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่บทความ “3 เหตุผลที่นักลงทุนควรอ่านแบบ 56-1 One Report” โดย กัญญารัตน์ ทวีศิริธนากุล ฝ่ายพัฒนาการลงทุนอย่างยั่งยืน โดย แบบ 56-1 One Report คือ รายงานประจำปีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องนำส่งต่อ ก.ล.ต. ภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบระยะเวลาบัญชี โดยประกอบด้วยข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจภาพรวมและทิศทางการดำเนินธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องลักษณะการดำเนินธุรกิจ การวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาส ผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน ซึ่งครอบคลุมถึงข้อมูลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) ของบริษัท สะท้อนถึงการทำธุรกิจบนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ เพื่อความสามารถในการเติบโตในระยะยาว ซึ่งนักลงทุนควรอ่านแบบ 56-1 One Report ด้วยเหตุผล 3 ประการ ได้แก่
1.ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจตัวธุรกิจ ทิศทางการดำเนินธุรกิจ และมุมมองของผู้บริหารแบบ 56-1 One Report ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ 4 ส่วน คือ 1) การประกอบธุรกิจและผลการดำเนินงาน 2) การกำกับดูแลกิจการ 3) งบการเงิน 4) การรับรองความถูกต้องของข้อมูล เพื่ออธิบายให้นักลงทุนเข้าใจตั้งแต่ว่ายอดขายมาจากไหน ลูกค้าคือใคร บริษัทมีกลยุทธ์เพื่อสร้างรายได้อย่างไร มีการวิเคราะห์และคำอธิบายของฝ่ายจัดการ (Management Discussion & Analysis หรือ MD&A) ที่อธิบายถึงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขที่สำคัญในงบการเงิน
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูล ESG ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของนักลงทุนในการตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง ความเข้มแข็งในการทำธุรกิจ และความสามารถในการอยู่รอดและเติบโตในระยะยาว เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจในการลงทุน
2.ช่วยนักลงทุนเตรียมความพร้อมก่อนประชุมผู้ถือหุ้นช่วงประมาณเดือนเมษายนของทุกปี เป็นช่วงการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี (Annual General Meeting หรือ AGM) ดังนั้น ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้น นักลงทุนควรศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบ 56-1 One Report เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในอดีตและทิศทางการบริหารจัดการธุรกิจในอนาคต รวมถึงไปใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้นด้วยการตั้งคำถามและให้ข้อสังเกตในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจที่ลงทุนมีความโปร่งใส ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ วิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงได้อย่างครอบคลุม และมีทิศทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิดและระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้
3.ช่วยบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวแบบ 56-1 One Report ยังสะท้อนทิศทางและการมองไปข้างหน้าของบริษัท (forward looking) ทั้งทิศทางตลาด แนวโน้มการแข่งขัน ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสต่าง ๆ รวมถึงการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นใหม่ (emerging risk) เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและจัดการกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โรคระบาด การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีวิธีคิดและแนวทางบริหารจัดการความเสี่ยงไปพร้อมกับแสวงหาโอกาสทางธุรกิจอย่างไร ทำให้นักลงทุนเข้าใจมุมมองของผู้บริหาร แนวคิด เป้าหมายและทิศทางการปรับตัวของธุรกิจ เพื่อนำข้อมูลไปใช้วิเคราะห์ความคุ้มค่าในการลงทุนและการออกแบบพอร์ตการลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างเหมาะสม
นักลงทุนสามารถติดตามข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนได้ที่ https://www.settrade.com/th/home โดยค้นหารายชื่อหุ้นที่สนใจ เลือก “ข้อมูลบริษัท” และไปที่ “แบบ 56-1 One Report”.-516-สำนักข่าวไทย