fbpx

ดีเดย์ 1 เม.ย.67 มาตรการช่วยลูกหนี้เรื้อรังกลุ่มเปราะบางปิดจบหนี้ใน 5 ปี

กรุงเทพ 13 มี.ค. – ธปท. เผยมาตรการช่วยลูกหนี้เรื้อรังกลุ่มเปราะบาง ที่ไม่เป็น NPL ปิดจบหนี้เร็วขึ้น ภายใน 5 ปี และลดภาระดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี เริ่ม 1 เม.ย.67 ชี้หากแบงก์-นอนแบงก์ในกำกับไม่แจ้งลูกหนี้ ถือว่ามีความผิด


นางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท. ออกหลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 67 ซึ่งเป็นการยกระดับการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงิน จากการขอความร่วมมือ เป็นกำหนดให้สถาบันการเงินต้องดูแลลูกหนี้ที่มีปัญหาชำระหนี้ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ และช่วยลูกหนี้ที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรังให้ปิดจบหนี้ได้ รวมถึงคุ้มครองสิทธิลูกหนี้ ซึ่งบางส่วนมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้รายย่อยและ SMEs ที่มีปัญหาชำระหนี้ทั้งก่อนเป็นหนี้เสีย (non-NPL) และหลังเป็นหนี้เสีย (NPL) อย่างน้อย 1 ครั้ง การคุ้มครองสิทธิลูกหนี้ให้เป็นธรรมยิ่งขึ้น เช่น ห้ามคิดค่าปรับไถ่ถอนสินเชื่อก่อนกำหนด (prepayment fee) สำหรับสินเชื่อรายย่อย (ยกเว้นกรณี refinance สินเชื่อบ้านภายใน 3 ปีแรก)

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 เม.ย. 67 ลูกหนี้ที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt: PD) ที่เป็นกลุ่มเปราะบางจะได้รับความช่วยเหลือให้ปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้นและลดภาระดอกเบี้ย โดยลูกหนี้ที่เข้าข่ายเรื้อรัง คือ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทวงเงินหมุนเวียน (ไม่รวมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล และบัตรเครดิต) ที่ไม่เป็น NPL และชำระดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นที่ชำระมาทั้งหมดเป็นระยะเวลานาน ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้


1. ลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาหนี้เรื้อรัง (general PD) คือ ลูกหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวม มาแล้ว 3 ปี แต่ไม่ถึง 5 ปี โดยลูกหนี้จะได้รับการแจ้งเตือน เพื่อกระตุกพฤติกรรมให้จ่ายชำระหนี้เพิ่มเติมและพิจารณาขอความช่วยเหลือให้สามารถปิดจบหนี้เร็วขึ้นได้

2. ลูกหนี้ที่เป็นหนี้เรื้อรัง (severe PD) คือ ลูกหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยรวมมากกว่าเงินต้นรวม มาแล้ว 5 ปี และมีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 20,000 บาท สำหรับลูกหนี้สถาบันการเงินและบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน หรือน้อยกว่า 10,000 บาท สำหรับลูกหนี้นอนแบงก์ โดยลูกหนี้จะได้รับการแจ้งเตือน และสมัครใจเข้าร่วมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง (opt-in) ด้วยการเปลี่ยนประเภทสินเชื่อเป็นสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด (installment loan)ให้ปิดจบหนี้ได้ภายใน 5 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงไม่เกิน 15% ต่อปี โดยลูกหนี้จะต้องปิดวงเงินสินเชื่อที่เข้าร่วมมาตรการ เพื่อให้ปิดจบหนี้ภายใต้มาตรการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการรายงานประวัติข้อมูลเครดิตว่าได้เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ลูกหนี้ทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับการแจ้งเตือนเป็นรายบัญชี (อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง) ผ่านช่องทางที่ตกลงไว้กับเจ้าหนี้อย่างน้อย 1 ช่องทาง เช่น จดหมาย อีเมล SMS mobile application เพื่อกระตุ้นให้จ่ายช าระหนี้เพิ่มขึ้นตลอดจนสมัครเข้าร่วมมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง หากลูกหนี้ต้องการทราบสถานะของตนเอง สามารถติดต่อสาขา หรือ call center ของผู้ให้บริการเพื่อตรวจสอบสถานะและสอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมมาตรการแก้หนี้เรื้อรังได้


อย่างไรก็ดี มาตรการปิดจบหนี้เรื้อรังจะเน้นช่วยลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทวงเงินหมุนเวียนที่จ่ายขั้นต่ำมานาน ซึ่งมีความตั้งใจจะปิดจบหนี้ และสมัครใจในการเข้าร่วมมาตรการ สำหรับลูกหนี้กลุ่มอื่น ๆ ที่มีปัญหาในการชำระหนี้ สามารถติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอรับความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้เกณฑ์ Responsible Lending หรือแนวทางอื่น ๆ ภายใต้การแก้หนี้อย่างยั่งยืนของ ธปท.

“กรณีลูกหนี้ที่เข้ามาตรการแก้หนี้ยั่งยืนแล้ว แต่ยังไม่สามารถปิดจบหนี้ได้ตามเงื่อนไขและระยะเวลาได้ที่กำหนด ยังสามารถเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้” นางสาวอรมนต์ กล่าว

ธปท. จะกำกับดูแลผู้ให้บริการอย่างใกล้ชิด ติดตามและผลักดันให้ผู้ให้บริการปฏิบัติตามเกณฑ์ Responsible Lending อย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าลูกหนี้ได้รับการช่วยเหลือที่ทันการณ์ เหมาะสม และได้รับบริการที่เป็นธรรม โดยในเดือน มี.ค. 67 จะเข้าตรวจสอบปูพรมผู้ให้บริการผ่านการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง (ongoing supervision) เช่น สุ่มตรวจสอบการปรับโครงสร้างหนี้ ว่าผู้ให้บริการได้เข้าช่วยเหลือแก้หนี้จริง รวมถึงคุณภาพของการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น การให้ข้อมูลการปรับโครงสร้างหนี้อย่างครบถ้วน ตรวจสอบการดำเนินการตามมาตรการปิดจบหนี้เรื้อรัง ทั้งเรื่องการแจ้งเตือนลูกหนี้ และติดตามตัวเลขการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เรื้อรังอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนตรวจสอบความถูกต้องของการคิดค่าธรรมเนียม เช่น prepayment fee ทั้งนี้ หาก ธปท. ตรวจสอบพบประเด็นสำคัญ จะสั่งการให้ผู้ให้บริการแก้ไขทันที และพิจารณาบทลงโทษที่เหมาะสมต่อไป.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “เศรษฐา 1/1”

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ โปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 1/1 แล้ว “พิชัย” รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง โยก “สมศักดิ์” นั่ง รมว.สธ. แทน “นพ.ชลน่าน”

อาลัย “ดาบต้าร์” ตร.ทางหลวง เสียชีวิตแล้ว

ข่าวเศร้าเช้าวันหยุด ด.ต.ปิยะนันท์ สีเสื้อ หรือ “ดาบต้าร์” เสียชีวิตแล้ว หลังบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเก๋งพุ่งชนขณะอำนวยการจราจรช่วงสงกรานต์

ไฟไหม้ “วิน โพรเสส” ยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด

กรมควบคุมมลพิษ เผยผลตรวจติดตามผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตราย ล่าสุดยังคงพบไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ในปริมาณเล็กน้อย แต่บางจุดพบสารบางชนิดในระดับจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตาและผิวหนัง พร้อมร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมแผนรับมือช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่

ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นอีก 20 สตางค์ แตะ 3.80 บาท

เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์ โดยเป็นการขยับราคาห่างจากรอบที่แล้วไม่ถึง 2 สัปดาห์ สาเหตุเพราะช่วงนี้อากาศร้อนยิ่งขึ้นอีก ปริมาณไข่ไก่ลดและขนาดฟองเล็กลง ประกอบกับสงครามในต่างประเทศ ทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ วอนผู้บริโภคเข้าใจและขออย่าตกใจ ปริมาณไข่ไก่แม้น้อยลง 5-10% แต่ยังเพียงพอบริโภค