นักวิชาการยอมรับเศรษฐกิจไทยช่วงขาลงปีนี้โตต่ำกว่าร้อยละ 3 แต่ส่งออกยังโตอยู่

กรุงเทพฯ 19 ก.พ.-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินเศรษฐกิจไทยปี 67 อยู่ในช่วงขาลง เห็นได้จากที่ภาครัฐ ซึ่งเป็นผู้วางนโยบายเศรษฐกิจ ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงต่ำกว่าร้อยละ 3 แต่ยังไม่ถึงขั้นแย่ โดยเชื่อรัฐบาลจะเร่งหามาตรการต่างๆเสริม พร้อมวิเคราะห์ทิศทางการส่งออก ปี 2567 มีปัจจัยบวกโดยเฉพาะเศรษฐกิจ และการค้าโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น จะดันส่งออกไทยเติบโตที่ ร้อยละ 2.5 ได้


นายธนวรรธน์  พลวิชัย  อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเปิดเผยว่าในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ทางศูนย์ฯ เตรียมปรับประมาณกลางเศรษฐกิจไทยในปีนี้อีกครั้ง ขณะนี้ยังคงไว้ที่ร้อยละ 3. จากปัจจัยสนับสนุนหลักในภาคการส่งออกที่จะโตได้ร้อยละ 2-3และการท่องเที่ยว ลุ้นให้นักท่องเที่ยวถึง 35-38 ล้านคน เพราะเศรษฐกิจไทย อยู่ในช่วงขาลง เห็นได้จากที่ภาครัฐ ซึ่งเป็นผู้วางนโยบายเศรษฐกิจ ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ลง ต่ำกว่าร้อยละ 3 แต่ยังไม่ถึงขั้นแย่ ซึ่งยังไม่รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเงินดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากมองการส่งออกย่อลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิม ดังนั้น มีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ให้ขยายตัวเกินร้อยละ 3ให้ได้ ซึ่งจะได้ไม่ต้องพึ่งพามาตรการ เงินดิจิทัลวอลเล็ต 

ทั้งนี้ โดยเฉพาะขยายนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ส่งเสริมการส่งออกให้โดดเด่นขึ้น ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงผลักดันให้รัฐวิสาหกิจ ลงทุนโครงการที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ เพื่อให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ระหว่างรอการใช้จ่ายเงินงบประมาณซึ่งความคืบหน้าล่าสุด มาตรการเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะล่าช้าจากเดิมไปอีก 30 วัน คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนมิถุนายน จากเดิมเดือนพฤษภาคมนั้น จะมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจน้อยลงอีกด้วย  


นอกจากนี้ ทางศูนย์ฯ ได้วางกรอบตัวเลขการส่งออกในปี 67 จะอยู่ที่ร้อยละ 2-3% หรือมีมูลค่าการส่งออกรวมอยู่ที่ 290,562 – 293,099 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปัจจัยสนับสนุนทั้งจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเติบโตขึ้น ล่าสุด IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ จีดีพี โลกเป็นร้อยละ 3.1 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 2.9 รวมทั้งการค้าระหว่างประเทศของโลก มีโนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3.3 เช่นเดียวกับ ค่าเงินบาท ช่วงครึ่งปีแรก ยังมีแนวโน้มอ่อนค่า ส่งผลดีต่อการแข่งขัน คาดอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 15 ก.พ.67 เฉลี่ย ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อโลกลดลง จะมีผลให้ดอกเบี้ยอยู่ในขาลง ซึ่งคาดว่า หลายประเทศ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตได้ดี และการส่งออกของไทย ไปยังประเทศต่างๆ กลับมาขยายตัวดีขึ้น ทั้งอาเซียน  ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป รวมถึงสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนการส่งออกถึง ร้อยละ 17.1 การส่งออกยังขยายตัว และตลาดจีน แม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดี แต่คาดว่าไทย จะส่งออกไปจีนขยายตัวดีกว่าปีที่แล้ว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามจากเหตุการณ์ในทะเลแดงที่ยังยืดเยื้อ ส่งผลให้ค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม สินค้าส่งออกดาวเด่นที่คาดว่าจะส่งออกปี 67 มากขึ้นใน 10 อันดับแรก ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า แผงวงจรไฟฟ้า ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้  และเครื่องจักรกล ขณะที่สินค้าดาวรุ่ง 3 อันดับแรก ได้แก่ รถแทร็กเตอร์และยางยนต์พิเศษ กระเป๋าเดินทางและกระเป๋าอื่นๆ และไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง

นอกจากนี้ ทางศูนย์ฯยังได้ประเมินการจับจ่ายของประชาชน ในวันมาฆบูชาปีนี้ มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน ได้ทำการสำรวจกิจกรรมของประชาชนในปีนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ตั้งใจไปทำบุญมากขึ้นจากปีก่อน หลังผ่านสถานการณ์โควิด และยังเป็นวันหยุดยาว คาดจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 2,432 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 28 จากปีก่อน ตั้งใจจะไปทำบุญไหว้พระ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งใจไปเวียนเทียนมากที่สุด ใช้เงินเฉลี่ยคนละ 292 บาท รองลงมาไปทำบุญ ใช้เงินเฉลี่ยคนละ 677 บาท ตักบาตร ใช้เงินเฉลี่ยคนละ 393 บาท ปล่อยนก-ปล่อยปลา-ไถ่ชีวิตสัตว์ คาดว่าใช้เงินเฉลี่ยคนละ 279 บาท และอื่นๆเป็นต้น.-514-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า