รัฐ-เอกชน มองตรงกันไทยมีศักยภาพสูงดึงดูดลงทุนการค้าได้

กรุงเทพฯ 16 ก.พ. – ภาครัฐและเอกชนมองตรงกันประเทศไทยยังมีศักยภาพสูงที่จะดึงดูดการลงทุนและการค้าได้อีกมากที่พลิกเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน แต่จะต้องปรับตัวและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม พัฒนาแรงงานที่มีคุณภาพด้วยการนำเทคโนโลยี่สมัยใหม่เข้ามา พร้อมทั้งต้องลดปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบเพื่อให้ไทยไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง


นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวในงานสัมมนา business RESHAP ING THAILAND FOR A SUSTAINABLE FUTURE พลิกเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า บีโอไอมองว่าอีก 3 ปีข้างหน้า ถือเป็นโอกาสดีของประเทศไทย ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่เทคโนโลยีด้านดิจิทัลกันมากขึ่น เช่น รถยนต์ EV โดยหากดูตัวเลขส่งเสริมการลงทุนในปี 66 ที่ผ่านมา มีมากถึง 848,318 ล้านบาท หรือมากกว่า 2,300 โครงการ จีนเป็นอันดับ 1 และตามไปด้วย ญี่ปุ่น รวมทั้งอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม บีโอไอเตรียมแผนงานภายใน 4 ปีข้างหน้า ที่จะส่งเสริมพลังงานสะอาด การพัฒนาด้านอีวี การพัฒนาดิจิทัล การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร และการส่งเสริมด้านการลงทุนทุกรูปแบบ ซึ่งบีโอไอ ยังมองว่าประเทศไทยมีศักยภาพหลายหลายด้านที่มีความพร้อม บริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนหรือขยายการลงทุนยังมีอีกมาก โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ และมีหลายกลุ่มหลายประเทศ สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รถอีวีผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายต่างมองที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จึงเชื่อว่าไทยจะเป็นศูนย์การผลิตรถอีวีได้อย่างแน่นอน


นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เท่าที่ได้ติดตาม ประเทศไทยมีเศรษฐกิจนอกระบบมากเกินไป ทำให้รายได้ของคนอยู่ในระดับต่ำ จนมีกลุ่มคนความยากจนมาก และมีความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ สูง การธรรมาภิบาลต่ำ การทุจริตในระบบราชการสูง การผลิตอยู่ในระดับต่ำเกินไป ทำให้จีดีพีของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำกว่าหลายประเทศ

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจนอกระบบของไทยมีสัดส่วนค่อนข้างสูงเกินกว่าร้อยละ 50 โดยคนทั้งประเทศ 10 -11 ล้านคน อยู่ในระบบต้องเสียภาษี แต่เสียภาษีจริงไม่กี่ล้านคน แต่คนมากกว่า 66 ล้านคน ยังต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐในรูปแบบต่างๆ อยู่ ขณะที่แรงงานเกินครึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ ปัญหาหนี้รอบระบบยังมีมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดต้นทุนแฝงจากเศรษฐกิจนอกระบบด้วยการนำระบบดาต้า เพื่อลดต้นทุนแฝงจะทำให้คอร์รัปชั่นลดลง และจะต้องไม่เกิดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน แต่เร่งส่งเสริมเอสเอ็มอีเข้าสู่ธุรกิจในระบบ เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองกับรายใหญ่

ทั้งนี้ ยังมองว่า การแก้หนี้นอกระบบ คนที่เป็นหนี้ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินของสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ยังมีหนี้นอกระบบค่อนข้างอยู่มาก ดังนั้นในอีก 5-10 ปีข้างหน้าภาคการเงินจะต้องมีการปรับเปลี่ยนในการให้บริการด้วยการนำเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาเสริมเพื่อให้คนเข้าแหล่งการเงินขอฃสถาบันการเงินให้มากยิ่งขึ้น


ดร.ภก. นิลสุวรรณ ลีลารัศมี รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้มีหลายมีหลายปัจจัยเสี่ยงถือเป็นสิ่งท้าทาย ที่มีผลต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายที่จะเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับภาคอุตสาหกรรม ปัญหาการขาดแคนแรงงาน การเสริมความรู้ให้กับแรงงานไทย รวมไปถึงการเสริมความรู้ให้กับภาคการเกษตรของไทย ปัญหาความพร้อมด้านโลจิสติกส์ ปัญหาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้จะต้องมีการขับเคลื่อนให้จีดีพีของประเทศมีอัตราการเติบโตอย่างน้อยปีไม่น้อยกว่าร้อย 5 ไทยจะต้องมุ่งมั่นพัฒนาพลังงานสะอาดแบบยั่งยืน พร้อมทั้งดูแลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดความเสี่ยงในระยะยาว แม้ประเทศไทยจะดำเนินช้าแต่จะต้องเห็นผลในระยะยาวและกลไกสนับสนุนลดก๊าซเรือนกระจก อย่างเป็นรูปธรรม โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยจะต้องไปถึง 4.0 จะต้องนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้ผลิตสินค้าเป็นที่ยอมรับของตลาดโลกโดยเฉพาะนำ AI เข้ามาพัฒนา

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะต้องสร้างความสมดุล ซึ่ง ESG ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจพร้อมทั้งดูแลด้านสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมไทยจะต้องมีการลดคาร์บอนให้น้อยลง ซึ่งจะเห็นว่าหลายบริษัทของไทยมีการตื่นตัวที่จะลดปัญหาคาร์บอนและการจำกัดขยะพลาสติกให้น้อยลง
ซึ่ง GC มีแผนขับเคลื่อนองค์กรภายใต้สมดุลย์ระหว่างเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีแผนที่ชัดเจนการจะลดคาร์บอนที่จะเห็นผลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทยกล่าวว่า แก๊ปอยู่ประเทศไทยมา 11 ปี แม้จะเป็นบริษัทเล็ก แต่ได้ใช้แพลตฟอร์มเข้ามาช่วยเสริมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ทัังการจัดส่งอาหารและการเดินทางท่องเที่ยวปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยมากกว่า 27 ล้านคน โดย Grab ได้ร่วมทำโครงการกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและได้นำเอาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มเข้ามาเสริมด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะได้นำAI มาแปลภาษาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้รู้จักสถานที่ต่างๆของประเทศไทยโดยจะเห็นว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้ไปได้หันไปเที่ยวในเมืองรองกันมากขึ้น รวมทั้งยังได้ช่วยสนับสนุนกลุ่มสินค้าอาหาร ซึ่งถือเป็นซอฟพาวเวอร์ไทยอีกด้านหนึ่ง นอกจากนี้แก๊ปยังเร่งศึกษาที่จะนำแพลตฟอร์มเข้าไปเสริมในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี แก๊แยังเข้าไปช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในกลุ่มร้านอาหารเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดย่อย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำอีกด้วย.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย