เอแบค จับมือ THG เปิดคณะแพทยศาสตร์ ลำดับที่ 29 ของไทย

สมุทรปราการ 18 ม.ค.-มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จับมือ THG จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ภายใต้ชื่อ St. Luke School of Medicine ตั้งเป้าเป็นโรงเรียนแพทย์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย แก้ปัญหาบุคลากรขาดแคลน ชี้ทั้งระบบเหลือแพทย์แค่ 70,000 คน หวังช่วยภาครัฐผลิตแพทย์เติมเข้าระบบสาธารณสุขไทยที่กำลังเสี่ยงขาดแคลน เตรียมเปิดรับนักศึกษารุ่นแรกปี 2568


นายแพทย์ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผยถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญในโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ ภายใต้ชื่อ St. Luke School of Medicine เพื่อจัดทำหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) ว่า ปัจจุบันวงการสาธารณสุขของประเทศไทยมีจำนวนแพทย์ที่บันทึกอยู่ในระบบประมาณ 7 หมื่นราย และกำลังประสบสภาวะสมองไหลแพทย์ลาออกจากระบบจำนวนมาก ขณะที่สถิติของแพทย์ไทย 1 คนโดยเฉลี่ยต้องดูแลผู้ป่วยมากกว่า 1,000 คน ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานจำนวนแพทย์ต่อประชากรตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด ส่งผลให้แพทย์ต้องแบกรับภาระงานมากเกินไป หากปล่อยต่อไปจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาวะพื้นฐานของประชากรในระยะยาว ดังนั้น THG และ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในฐานะภาคเอกชนจึงอยากร่วมสนับสนุนภาครัฐสร้างสถาบันผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่ระบบเพื่อกระจายตัวออกไปรับใช้สังคมในพื้นที่ต่างๆ จึงนำมาสู่ความร่วมมือนี้ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยไทยลำดับที่ 29 ที่เปิดสอนคณะแพทยศาสตร์

โดยคณะแพทยศาสตร์ St. Luke School of Medicine จะผสานความสามารถด้านการผลิตบัณฑิตของ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กับความเชี่ยวชาญและเครือข่ายทางการแพทย์ที่แข็งแรงของ THG เข้าด้วยกัน โดย THG รับผิดชอบในการจัดตั้งกองทุนคณะแพทยศาสตร์ ตามเกณฑ์การขอเปิดดำเนินการหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของแพทยสภา รวมถึงจัดหาโรงพยาบาลหลักสำหรับการเรียนการสอนระดับคลินิกและสถาบันพี่เลี้ยง ตลอดจนการจัดจ้างผู้บริหาร คณาจารย์และบุคลากร รวมถึงเครื่องมือแพทย์และวัสดุอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการให้ครบถ้วนตามเกณฑ์ ขณะที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ รับผิดชอบด้านการบริหารบุคลากรและสาธารณูปโภคที่จำเป็น โดยเตรียมเปิดรับนักศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2568 แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติและรับรองหลักสูตรจากแพทยสภาเป็นสำคัญ


นายแพทย์บุญ วนาสิน ที่ปรึกษาประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG กล่าวว่า การจัดตั้งสถาบันการศึกษา หรือ โรงเรียนด้านการแพทย์ถือเป็นอีกหนึ่งในเจตนารมณ์ที่ THG คาดหวังและต้องการทำขึ้นเพื่อสังคมมาตลอด วันนี้ก็ได้รับการตอบรับให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยคณะแพทยศาสตร์ St. Luke School of Medicine จะมีคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติจากไทยและต่างประเทศมาเป็นผู้สอน ขณะที่หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นแบบประยุกต์ อาทิ นำวิชา anatomy physiology และ clinical medicine มารวมกันเพื่อทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ และนำ AI มาใช้ในการเรียนการสอนด้วย โดยตั้งเป้าเป็น international medical school หรือ โรงเรียนแพทย์ที่ทันสมัยสุดแห่งหนึ่งของเอเชีย

ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ St. Luke School of Medicine เกิดขึ้นตามความเห็นชอบจากที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 2/2566 วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เพื่อร่วมมือกับ THG ในการผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีความรอบรู้ รับผิดชอบ มีจริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีทักษะด้านการบริหารจัดการที่สอดคล้องมาตรฐานวิชาชีพ มาตรฐานวิชาการและมาตรฐานสากล ภายใต้การกำกับดูแลของสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำนักปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สปอว.) และแพทยสภา

การก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ครั้งนี้ จะมีตราสัญลักษณ์ประจำคณะเป็นรูป “กางเขนสีเขียวเข้มบนโล่สีแดง” หมายถึง คณะแพทยศาสตร์ในสถาบันการศึกษาคาทอลิก ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากอัสสัมชัญ ในบริบทนี้จึงหมายถึงคณะแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญนั่นเอง โดยคณะแพทยศาสตร์ St. Luke School of Medicine ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิทยาเขตสุวรรณภูมิ ซึ่งมีการออกแบบสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานและศึกษา โดยวิทยาเขตสุวรรณภูมิจะเป็นที่เรียนของนักศึกษาในช่วง 3 ปีแรก จากนั้นในชั้นคลินิกปี 4 – 6 นักศึกษาจะไปศึกษาและฝึกปฏิบัติยังโรงพยาบาลต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถเปิดรับนักศึกษารุ่นแรก จำนวน 60 คน ได้ภายในปี 2568 ตามเป้า อย่างไรก็ตามขณะนี้ คณะแพทยศาสตร์ St. Luke School of Medicine อยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยปักกิ่งเพื่อพัฒนาโครงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการด้าน Health Economic ระหว่างไทยและจีน รวมถึงร่วมกับ Wisconsin Medical School จัดทำโครงการพัฒนาคณาจารย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานวิชาการในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของสถาบัน


นายแพทย์บุญ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการลงทุนในอนาคตของ THG ว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงพยาบาลแข่งขันกันสูงมากในประเทศไทย และทาง THG ก็มีโรงพยาบาลในสังกัดแล้วถึง 10 แห่งในประเทศไทย รวมทั้งที่ประเทศเมียนมาร์ อีก 1 แห่ง ดังนั้นทาง THG จึงเตรียมที่จะเปิดคลีนิคแพทย์ทั่วประเทศอีกประมาณ 100 แห่ง มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท กระจายในทั่วประเทศไทย โดยจะเริ่มเปิดคลีนิคแพทย์ สาขาแรกที่สยามพารากอน ในช่วงปลายเดือนนี้เป็นแห่งแรก โดยใช้ AI เข้ามาช่วยในการตรวจรักษาผู้ที่มารับบริการ โดยจะเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเป็นหลัก เพราะการป้องกันจะง่ายกว่าการรักษาหากเกิดโรคแล้ว โดยจะเปิดคลีนิคแพทย์ในกรุงเทพมหานครประมาณ 10 กว่าคลีนิค หลังจากนั้นจะกระจายไปทั่วประเทศ จนครบ 100 คลีนิค โดยคลีนิค จะตั้งใกล้ชุมชนเพื่อให้ประชาชน สามารถเดินเท้าเข้ามาตรวจและรักษาพยาบาลได้เลยซึ่งในแต่ละคลีนิค จะรองรับผู้มาใช้บริการได้ 5,000-10,000 คน.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก