ภาพรวมผู้ใช้บริการระบบรางวันที่ 28 ธ.ค.กว่า1.5 ล้านคนต่อเที่ยว

กรุงเทพ 29 ธ.ค.-กรมการขนส่งทางรางเผยเมื่อวานก่อนหยุดยาวปีใหม่ 2567 มีประชาชนใช้บริการรถไฟ 91,897 คน-เที่ยว โดยสิ้นวันไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ภาพรวมผู้ใช้บริการระบบรางรวมกว่า 1.5 ล้านคน-เที่ยว มากกกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 25 โดยไม่มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟและไม่มีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง พร้อมทั้งได้ประสานผู้ให้บริการระบบรางอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยตามแผนอำนวยความสะดวกฯ ของกระทรวงคมนาคม 


นายพิเชฐ  คุณาธรรมรักษ์  อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวาน (วันที่ 28 ธันวาคม 2566) ซึ่งถือเป็นวันทำงานวันสุดท้าย (เนื่องจากวันที่ 29 ธันวาคม 2566 เป็นวันหยุดราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2566) ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2567 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึง 4 มกราคม 2567  (7 วันระวังอันตราย) มีประชาชนใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,504,269 คน-เที่ยว มากกว่าวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา 297,879 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 (28 ธันวาคม 2565 จำนวน 1,206,390 คน-เที่ยว ประกอบด้วย รฟท. 73,014 คน-เที่ยว และระบบรถไฟฟ้า 1,133,376 คน-เที่ยว) แบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมืองของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน  91,897 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) จำนวน 1,412,372 คน-เที่ยว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการรวม 216 เที่ยว (รวมรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 ขบวน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 91,897 คน-เที่ยว มากกว่าวันเดียวกันของปีที่ผ่านมา จำนวน 18,883 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.86 แบ่งเป็น ผู้โดยสารเชิงพาณิชย์  41,233 คน-เที่ยว และเชิงสังคม 50,664 คน-เที่ยว โดยมีผู้โดยสารขาออกจำนวน 51,249 คน-เที่ยว และผู้โดยสารขาเข้า 40,648 คน-เที่ยว  และพบว่า สายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้ใช้บริการมากสุดถึง 26,673 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 16,067 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 10,606 คน-เที่ยว) รองลงมาคือสายใต้มีผู้ใช้บริการ 24,286 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 13,007 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 11,279 คน-เที่ยว)  สายเหนือ 21,082 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 12,141 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 8,941 คน-เที่ยว) สายตะวันออก 12,342 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 6,475 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 5,867 คน-เที่ยว) และสายมหาชัยกับแม่กลอง 7,514 คน-เที่ยว (ผู้โดยสารขาออก 3,559 คน-เที่ยว ผู้โดยสารขาเข้า 3,955 คน-เที่ยว) โดย รฟท. จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 4 ขบวน ในเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ กรุงเทพอภิวัฒน์ – ศิลาอาสน์ กรุงทพอภิวัฒน์ – อุดรธานี และกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุบลราชธานี มีผู้ใช้บริการรวม 2,844 คน-เที่ยว โดยพบว่า ไม่มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์  และไม่มีเหตุอันตรายต่อการเดินรถไฟแต่อย่างใด


2. ระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารวม 3,046 เที่ยว (รวมเสริม 24 เที่ยว) มีผู้ใช้บริการรวมจำนวน 1,412,372 คน-เที่ยว มากกว่าวันเดียวกันของปีที่ผ่านมาจำนวน  278,996 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.62 (28 ธันวาคม 2565 จำนวน  1,133,376 คน-เที่ยว) โดยไม่มีเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง  ประกอบด้วย 

2.1 รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 221 เที่ยว (รวมเสริม 6 เที่ยว)  จำนวน 64,135 คน-เที่ยว มากกว่าปีที่ผ่านมา 10,548 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.68 (28 ธ.ค.65 จำนวน 53,587 คน-เที่ยว)    

2.2 รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ให้บริการ 294 เที่ยว จำนวน  26,665 คน-เที่ยว  (รวมผู้โดยสารรถไฟทางไกลต่อสายสีแดงฟรี 70 คน-เที่ยว) มากกว่าปีที่ผ่านมา 10,013 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.13 (28 ธ.ค.65 จำนวน 16,652 คน-เที่ยว)    


2.3 รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) 321 เที่ยว (รวมเสริม 3 เที่ยว) จำนวน 61,322 คน-เที่ยว มากกว่าปีที่ผ่านมา  21,512 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 54.04 (28 ธ.ค.65 จำนวน 39,810 คน-เที่ยว)    

2.4 รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) 475 เที่ยว (รวมรถเสริม 15 เที่ยว)  จำนวน 391,099 คน-เที่ยว  มากกว่าปีที่ผ่านมา  71,965 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.55 (28 ธ.ค.65 จำนวน 319,134 คน-เที่ยว)    

2.5 รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิทและสายสีลม (สีเขียว) ให้บริการรวม 1,240 เที่ยว มีผู้ใช้บริการจำนวน 759,704  คน- เที่ยว  มากกว่าปีที่ผ่านมา 62,550 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.97 (28 ธ.ค.65 จำนวน 697,154 คน-เที่ยว)    

2.6 รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีทอง ให้บริการรวม 219 เที่ยว จำนวน 9,483 คน-เที่ยว  มากกว่าปีที่ผ่านมา 2,444 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.72 (28 ธ.ค.65 จำนวน 7,039 คน-เที่ยว)    

2.7 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง จำนวน 34,510 คน-เที่ยว (ปีที่ผ่านมายังไม่เปิดให้บริการ)

2.8 รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเชมพู จำนวน 65,454 คน-เที่ยว (ปีที่ผ่านมายังไม่เปิดให้บริการ)

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางได้ประสานผู้ให้บริการระบบราง พิจารณาจัดขบวนรถเสริมในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงวันหยุดต่อเนื่องเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้ โดยวันนี้ (29 ธันวาคม 2566) คาดว่ายังคงมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา โดย รฟท. จัดพ่วงตู้โดยสารไปกับขบวนรถที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่มเติม 2 ขบวน  ประกอบด้วย เที่ยวไป ขบวน 973 เส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ออกเวลา 23.30 น.) – อุบลราชธานี (ถึง 10.55 น.ของวันที่ 30 ธันวาคม 2566) และเที่ยวกลับ ขบวน 6 เส้นทางเชียงใหม่ (ออกเวลา 18.55 น.) – กรุงเทพอภิวัฒน์ (ถึง 07.35 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2566) 

สำหรับด้านความปลอดภัย รฟท. โดยฝ่ายการช่างโยธาได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบริเวณจุดตัดเสมอระดับที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมทั้งประสานองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเจ้าหน้าที่/อาสาสมัคร /กู้ภัย/อปพร. มาเฝ้าระวังเหตุบริเวณจุดตัดทางลักผ่าน เพื่อช่วยกันป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนยานพาหนะด้วยอีกทางหนึ่ง  นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางได้จัดเจ้าหน้าที่ประสานงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้านระบบรางและลงพื้นที่สุ่มตรวจการดำเนินงานตามแผนอำนวยความสะดวกฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและมีความปลอดภัยในการเดินทางด้วยระบบราง.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]